วันที่ 19 เม.ย. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย จะยึดตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคืน ว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เลือกโดย สส.ทุกคน สส.เลือกไปแล้ว ส่วนจะเปลี่ยนหรือไม่ให้ สส.และสภาเป็นคนเปลี่ยน ไม่ใช่พรรคการเมืองหรือรัฐบาล และยังไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะต้องรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ ที่ สส.ในสภาฯอาจจะต้องการเปลี่ยน ให้ประธานสภา มาจากพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม ระบุว่า ยังไม่มีอะไร การทำงานที่ผ่านมาประธานสภาฯ ทำหน้าที่ได้สมเกียรติ สมหน้าที่ และไม่เคยมีข้อขัดแย้งกัน ท่านปฏิบัติต่อ สส.ทุกคนเป็นอย่างดี
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ยึดคืนตำแหน่งประธานสภาฯใช่หรือไม่ ภูมิธรรม ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเจ้าของตั้งแต่ต้นจะไปยึดคืนอะไรไม่ได้ เพราะเป็นที่ประชุมสภาฯ สส.จะเป็นผู้ตัดสินเอง
ส่วน สส.มีการมาพูดคุยกันในการประชุมพรรคหรือไม่ ว่าอยากได้ประธานสภาฯเป็นคนของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้งานสภาพเป็นไปอย่างเรียบร้อย ภูมิธรรม ยอมรับว่า มีการพูดคุยกันว่าจะช่วยกันทำให้สภาฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยด้วยหน้าที่ของ สส. แต่เรื่องที่จะไปเกี่ยวข้องกับประธานสภาฯไม่ใช่หน้าที่ของ สส.ที่จะมาคิดเปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยคิดจะไปเปลี่ยนประธานสภาฯ เนื่องจากท่านก็ทำหน้าที่ได้ดี
เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีการเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ เพราะอาจจะมีการตีความจากคำพูดนายกรัฐมนตรี ว่าการทำงานของสภาฯสำคัญ จึงอาจมีการเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ภูมิธรรม กล่าวว่า ความหมายของนายกรัฐมนตรี คือการทำให้สภาฯเข้มแข็ง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น สส.ในสภาต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ให้มีการจัดการทำงานภายในองค์กร ให้สามารถสะท้อนปัญหาของประชาชนได้ และทำงานด้านนิติบัญญัติให้เข้มแข็งซึ่งไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนที่มีกระแสข่าวมีชื่อของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจจะไปนั่งในตำแหน่งประธานสภาฯ ทำให้ ภูมิธรรม ย้อนถามกลับสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีว่า คุณกำลังเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือ สื่อมวลชนจึงถามกลับว่าถ้ามีการปรับ ครม.อาจจะได้ไปทำงานที่สภาฯ ซึ่ง ภูมิธรรม จึงตอบกลับทันทีว่า
"การทำงานสภาฯ สมมติว่ามี ก็ยังไม่รู้นะ นี้ยังไม่รู้นะ เพราะไม่มีอะไรที่เกิดขึ้น ความหมายของการทำงานในสภาฯที่นายกรัฐมนตรีพูดถึง คือการให้สส.เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำหน้าที่คิดกฎหมาย เสนอกฎหมายแค่นี้ อย่าจินตนาการ ก่อนจะบอกว่า ไม่มี ไม่มี"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ผ่านมา สุทิน และ นพ.ชลน่าน ทำหน้าที่ในสภาได้ดีในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน จึงทำให้ถูกมองได้ว่าหากมีการปรับ ครม. สองคนนี้อาจจะต้องไปทำหน้าที่ในสภาฯ ภูมิธรรม ระบุว่า การทำหน้าที่ที่เข้มแข็งในสภาไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องไปเป็นประธานสภาหรือรองประธานสภาฯ งานในสภามีหลายเรื่องทั้งเรื่องกรรมาธิการ ทำให้เกิดความร่วมมือในองค์ประชุม งานด้านกฎหมาย อยากให้ทุกคนสบายใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย เราไม่ได้มีความคิดอะไรที่จะไปเปลี่ยนแปลง ที่เราดูแลอยู่ก็แค่ตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพราะตำแหน่ง ประธานสภามาจากการเลือก จาก สส.ทุกคน
พร้อมย้ำว่า ท่านก็ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ในฐานะที่ดูแลสภาฯ ไม่โน้มเอียงมาพรรคการเมืองด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้ามีข่าวอีกอยากให้เรื่องนี้ยุติ คำว่าสภาเข้มแข็ง ตัวประธานสภาทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว สิ่งที่อยากให้ทำคือทำกฎหมายเพื่อประชาชนให้มากขึ้น สะท้อนปัญหาของประชาชนได้เยอะขึ้น และให้คณะกรรมาธิการ พิจารณาและสรุปเรื่องสำคัญต่างๆให้มากขึ้น ขอให้เรื่องนี้ยุติอย่าไปจินตนาการ สร้างความบั่นทอน ปั่นป่วนมากเกินไป