ผู้สื่อข่าวรายงานระบุว่า บรรยากาศการขายทุเรียน จากสวนแท้ในจังหวัดยะลา มีลูกค้าออกมาซื้อกินทุเรียนอย่างคึกคัก ซึ่งชาวบ้านได้นำทุเรียนจากสวนต่างๆ ในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองยะลา และอำเภอใกล้เคียง มาวางขายในแต่ละวัน กว่า 10 เจ้า ขายได้มากกว่า 2 ตัน
โดยลูกค้าที่มาซื้อมีทั้งผู้ที่ซื้อมาไว้รับประทานเอง แบบซื้อปลีก และซื้อมาเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยปีนี้ สวนทุเรียน ในเขตอำเภอเมืองยะลา เริ่มสุกก่อน พื้นที่ อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปินัง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนจำนวนมาก
ทำให้คาดการณ์ว่าในพื้นที่ดังกล่าว จะออกมาขายแบบขายส่งให้พ่อค้าคนกลางได้ประมาณต้นเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้ ทำให้ตลาดขายปลีกในตลาดสดเมืองใหม่ยะลา จะมีทุเรียนมาวางขาย ในราคาที่ไม่สูงมากเกินไป ทำให้กลุ่มผู้บริโภคในทุกระดับสามารถหาซื้อกินได้ โดยราคาจำหน่ายแบบปลีก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ราคาทุเรียนสูงกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 10-15 บาทต่อกิโลกรัม พ่อค้าทุเรียนที่นำมาวางขาย มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ ประเภทรับจ้างจากเจ้าของสวนนำทุเรียนมาวางให้ โดยได้รับค่าจ้างวันละ 500 บาท และกลุ่มพ่อค้าที่ไปรับซื้อมาจากสวน แล้วนำมาวางขาย ซึ่งจะได้กำไรกิโลกรัมละ 5-10 บาท ได้กำไรวันละ 1,000 – 2,000 บาท มีผู้นำทุเรียนมาวางขายแต่ละวันมากกว่า 10 เจ้า ขายได้วันละ ไม่น้อยกว่า 2,000 กิโลกรัม โดยจะเริ่มเปิดวางขายตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น.ทุกวัน
สำหรับจังหวัดยะลา นับว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพของทุเรียน ในแต่ละปีจะมีพ่อค้าจากทุกภาคของประเทศไทยเดินทางมารับซื้อทุเรียนจากจังหวัดยะลา เพื่อนำส่งออกและส่งขายในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย โดยในปีนี้ ทุเรียนจะออกสู่ตลาดเต็มที่จะอยู่ประมาณต้นเดือน ส.ค. ตลาดมลายูบางกอก ในเขตเทศบาลนครยะลา จะเป็นศูนย์การค้าขายที่ใหญ่ที่สุด ใน 4 จังหวัดชายชายแดนภาคใต้ รองรับเจ้าของสวนจากจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ที่นำทุเรียนมาส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง เป็นจำนวนมาก ทำให้ในแต่ละวันจะมีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :