เมื่อวันที่ 26 ก.ค.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นายจอม เพชรประดับ อดีตผู้ประกาศข่าว ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ จากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังนครลอสแองเจลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด อายุ 70 ปี
นายทักษิณ กล่าวว่า ขอบคุณและประทับใจกับคำอวยพรความห่วงใยที่มีคุณค่ามากที่สุด ผ่านมาแล้ว 13 ปีที่ออกมา ท่านทั้งหลายยังห่วงใย ปัจจุบันต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งกายและใจ
"สุขภาพดีซื้อไม่ได้ ต้องหาเอาเอง"
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อีกฝ่ายเล่นงานโดยไม่มีหลักเกณฑ์ แต่อีกฝ่ายให้กำลังใจ ต้องเอาสิ่งที่เป็นบวกมาเป็นกำลังใจ ต้องอยู่ให้เป็นและมีคุณค่า ในวัย 70 ปี ยังคิดว่าตนเองแข็งแรงและเข้มเเข็ง
"ทุกวันนี้คิดอย่างเดียวว่า ผมเป็นหนี้บุญคุณประชาชน เพราะประชาชนรักและห่วงใยผม พรรคที่เป็นผู้สนับสนุนผม เลือกตั้งทีไรชนะตลอด แม้จะถูกโกงก็ตาม ก็ยังถือว่า��ำได้ดีมาก แต้มสูงสุดแล้ว กำลังใจเหล่านี้แหละครับที่ทำให้ผมอยู่ได้"
ทั้งนี้อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัจจุบัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ด้วยกัน แต่ว่าอยู่ละบ้าน
สำหรับประเด็นเรื่องการวางมือทางการเมือง นายทักษิณ กล่าวว่า "มือมันต้องวางตลอดครับ กินข้าวก็ต้องวางบนโต๊ะ นั่งก็ต้องวางบนหน้าขาตัวเอง มันต้องวางมือไม่งั้นมันหนัก"
เมื่อถามว่าจะหยุดแสดงออกทางการเมืองไปชั่วขณะใช่หรือไม่ ?
"ผมไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก ได้แต่ให้กำลังใจสนับสนุน เพราะว่าทุกวันนี้ ผมอยู่เมืองนอก 10 กว่าปีก็ต้องทำมาหากิน หาเลี้ยงชีพตามประสา แวะไปโน่นไปนี่หาเพื่อนฝูงบ้าง"
นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนการเมืองไทย ก็มีคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ทั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธานพรรค และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ ซึ่งคงไม่ต้องไปกังวล ถือว่าพรรคไปได้ดี และพี่น้องประชาชนก็เข้าใจ
"พรรคนี้เป็นสายเลือด เป็นดีเอ็นเอ ตั้งเเต่ไทยรักไทยที่ผมก่อตั้งมา ส่วนที่ออกไปอยู่ที่่อื่นประชาชนก็ไม่ได้มองว่าเป็นไทยรักไทย เลือกตั้งที่ไรก็เเพ้ เที่ยวนี้ใช้กำลังภายในทุกรูปแบบก็ได้แค่นี้ ถือว่าพรรคที่เป็นดีเอ็นเอของเราก็ยังเเข็งแรง ประชาชนยังสนับสนุน เพราะเรายังยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำเพื่อประชาชนเป็นหลักและรักษาระบอบประชาธิปไตย"
นายทักษิณ ระบุว่า ไม่เคยเห็นทหารยุคไหนขาดความเป็นลูกผู้ชายเท่ายุคนี้ และไม่เท่ที่ชนะในแบบที่ให้กรรมการช่วย
"เอากติกาช่วย เอากรรมการช่วย เอาคนช่วยโกงให้ด้วย มันไม่เท่ ไปที่ไหนความนับหน้าถือตาก็ไม่มี เพราะมันไม่เท่"
นายทักษิณบอกว่า ในฐานะคนไทยและอดีตนายกฯ ที่ห่วงใยคนไทย การเเสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์อยู่เเล้ว เพราะฉะนั้นให้ลืมประชาชนไปเลย เหมือนขาดความรับผิดชอบ เเละเป็นคนใช้ไม่ได้
วันนี้เราต้องแยก 3 ส่วน ประเทศ ประชาชน และ Regime (ระบอบ) ตัวแทน บริหารประเทศและดูแลประชาชน ซึ่งอย่างหลังส่วนใหญ่ที่เข้ามารวมถึงพวกที่มาจากการปฏิวัติ มักจะใช้ทรัพยากรของประเทศเพื่อตัวเองซะส่วนใหญ่ ทำเพื่อรักษาเสถียรภาพให้ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อประเทศ และประชาชน ตรงนี้คือความเสียหาย
"ผู้มีอำนาจไปปกป้องตัวเอง แล้วพอคนวิจารณ์ก็หาว่าไม่รักชาติ ทั้งที่เขารักชาติมากกว่า แต่เขาไม่ได้รัก Regime (ระบอบ) เพราะ Regime ไม่ดี"
เมื่อถามว่าจะได้กลับประเทศไทยเมื่อไหร่ ?
นายทักษิณตอบว่า "ไม่ทราบ ผมต้องจุดธูป"
เมื่อถามถึงการอภิปรายของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ?
อดีตนายกฯ ตอบว่า สิ่งที่น่าห่วงวันนี้คือ การบิดเบี้ยวของกฎหมาย ทั้งการตีความและการออกกฎหมาย เริ่มต้นด้วยการตีความหน้าด้านๆ
"ความเก่งไม่กลัวแต่กลัวความหน้าด้าน สำคัญคือเราไม่หน้าด้านเท่าเขา ให้หน้าด้านเนี่ยมุดรูดีกว่า" เขากล่าวแะลว่า การใช้กฎหมายแบบหน้าด้านไม่มีวันทำให้ประเทศสันติได้ ถ้าอยากให้ประเทศสันติ ต้องมีกติกาที่เป็นกลางเป็นธรรม และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าปล่อยให้ความไม่ธรรมและเป็นกลางเกิดขึ้น จะนำไปสู่ความทุกข์ยากและความขัดเเย้งในหมู่ประชาชน ความสุขตกต่ำลงไปทุกวัน
"ฝากผู้มีอำนาจทั้งหลาย ถ้าไม่รักประชาชนจะอยู่ยาก"
เมื่อถามถึงการอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ?
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ต้องถามว่าตกลงจะเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ประชาธิปไตยทำให้เราเรียนรู้ความหลากหลายความแตกต่างของมนุษย์ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องใจกว้าง การตำหนิเรื่องการบริหารไม่ดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องทำ คนอยู่ในฐานะสำคัญต้องใจกว้างที่จะฟัง
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาฝ่ายประชาธิปไตยสู้กับเผด็จการแล้วรู้สึกว่าเป็นฝ่ายแพ้ตลอด อำนาจเผด็จการก็ยังคงอยู่ไปตลอด เราจะมีโอกาสได้เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือไม่
นายทักษิณ ตอบว่า ตนต้องมาอยู่ต่างประเทศเพราะความซื่อบื้อ ไม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตยของพวกอีลิตในกรุงเทพฯ
ถึงวันนี้ความเข้าใจจะดีแล้ว ต้องยอมรับว่า กลยุทธ์ต้องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ใครจะคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ถึง 5 ปี เเต่ 5 ปีก็ยังถอดรากถอนโคนความเป็นประชาธิปไตยจากหัวใจประชาชนไม่ได้ และเชื่อว่าประชาชนมีตัวตายตัวแทน เจเนอเรชั่นใหม่จะใฝ่ประชาธิปไตยมากกว่าเดิม
เมื่อถามย้ำถึงการวางมือทางการเมือง ?
"เอาชัดๆ นะผมยังเป็นคนไทย ถึงแม้จะโดนยึดพาสปอร์ตก็ตาม ผมยังมีหัวใจเป็นคนไทย และยังคิดตลอดเวลาว่า ผมจะต้องทำนหน้าที่ช่วยคนไทยและคนไทย แต่ผมไม่ได้ปกป้องระบอบที่ไม่ดี (ตัวแทน)ไม่เก่ง"
เมื่อถามว่าวันเกิดอยากได้อะไร ?
ชายวัย 70 ปี ตอบว่า อยากให้คนไทยสามัคคี อยากได้รัฐบาลไม่กดขี่ความรู้สึกจิตใจประชาชน ให้เสรีภาพกับประชาชน อยากเห็นประชาชนไทยมีความสุข และหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงเปลี่ยนสไตล์ได้ และจำไว้ว่าสูตรเศรษฐกิจสมัยไทยรักไทยเอามาใช้ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เหมือนยารักษาโรค ช่วงเวลาไม่เหมือนกัน สมมุติฐานโรคไม่เหมือนกัน ใช้ยาเม็ดเดิมไม่หาย ถ้าอยากได้ยาเม็ดใหม่ถามตนได้
"ไม่เคยจะหวงวิชาเลย แต่ว่าจะมาเที่ยวด่ากันไม่มีประโยชน์ คนไทยควรหันหน้าปรึกษากัน"
เมื่อถามว่าหาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ จะโทรมาปรึกษาได้หรือไม่ ?
นายทักษิณตอบว่า "ยินดี รู้จักกันดี รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ เพราะฉะนั้นมีอะไรโทรมาถามได้"