วันที่ 9 ตุลาคม 2566 กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ตอบกลับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ที่ทวีตข้อความว่าพร้อมสมัครเข้าพรรคเป็นธรรม ในวันที่ 10 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ด้วยหลักการ 3 ข้อ สนับสนุนการปฏิรูปรัฐสภาให้โปร่งใส ประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชน ไม่ตระบัตสัตย์ ผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน และ สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่แท้จริงในภาคใต้ และพร้อมเดินทางแล้ว

โดย กัณวีร์ กล่าวว่า พร้อมเดินทางสร้างหลักการมนุษยธรรมนำการเมืองร่วมกับ ปดิพัทธ์ เช่นกัน

กัณวีร์ กล่าวว่า ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ 2 คือตำแหน่งรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งต้องคงไว้ด้วยหลักการที่สำคัญที่ผมได้นำเสนอไว้ในการทำงานทางการเมือง คือ “มนุษยธรรมนำการเมือง”

“ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง (Humanity) โดยไม่สามารถเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ (Impartiality) และจำเป็นต้องเป็นกลางในการทำงาน (Neutrality) โดยสามารถทำงานอย่างมีอิสรภาพได้และไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายใด (Independence)”

กัณวีร์ ย้ำว่า ไม่ต้องกังวลว่าการทำงานของท่านรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะเอนเอียงให้พรรคการเมืองใดๆ ขออย่าได้กังวล เพราะ ปดิพัทธ์ ต้องทำหน้าที่มิได้ต่างจากท่านประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 อยู่แล้ว

"อันที่สองผมเชื่อมั่น และผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายล้านคนเชื่อมั่นในตัวคุณหมออ๋องที่ได้แสดงผลงานการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 อย่างไร้ที่ติ ตามหลักการที่ผมเอามาอ้างอิง คือ มนุษยธรรมนำการเมือง ซึ่งผมก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันว่ามีนักการเมืองร่วมอุดมการณ์กับผมได้ปฏิบัติตนอย่างเดียวกันมาโดยตลอด และยิ่งรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง เมื่อคุณหมออ๋องตัดสินใจเข้าร่วมพรรคเป็นธรรมกับผมครับ"

กัณวีร์ กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดการแสดงจุดยืนของตนเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะในเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุด คือ การไม่ตระบัดสัตย์ต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาขน การยึดมั่นในอุดมการณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และการยึดถือคำสัตย์ไว้เป็นที่ตั้ง

"โปรดจงมั่นใจและเชื่อใจการทำงานที่จะเกิดขึ้นต่อไประหว่างคุณหมออ๋องและตัวผมที่จะเอาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้งครับ" กัณวีร์ กล่าวย้ำ

สำหรับการเข้าร่วมพรรคเป็นธรรม ของนายปดิพัทธ์ จะมีขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา