ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้ง 3 เป็นบุคคลสองสัญชาติ ที่ถือทั้งสัญชาติจีนและปากีสถาน ซึ่งทำการเปิดคลินิกทันตกรรมในพื้นที่มาเป็นเวลากว่า 40 ปี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งอายุอยู่ในวัย 30 ต้นๆ “ไม่ได้ทำร้ายคนปากีสถาน” ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (28 ก.ย.) ที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ก่อเหตุยังคงลอยนวลอยู่ หลังหลบหนีไปด้วยมอเตอร์ไซค์ด้วยความช่วยเหลือจากผู้สมรู้ร่วมคิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุตัวตนผู้เสียหาย 3 คน ได้แก่ โรนัลด์ โชว ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ให้กับ ริชาร์ด หู ทันตแพทย์วัย 74 ปี พร้อมด้วย มาร์กาเรต ภรรยาวัย 72 ปีของเขา จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า มาร์กาเรตและริชาร์ด หู ถูกยิงบาดเจ็บ และกำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ในขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุการณ์ดังกล่าว และแรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม การโจมตีในครั้งนี้ไม่ใช่เหตุความรุนแรงครั้งแรก ที่เกิดขึ้นกับชาวจีนในปากีสถาน
ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ครูสอนภาษาจีน และคนขับรถชาวปากีสถานเสียชีวิต จากเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายในบริเวณใกล้เคียงกับสถาบันขงจื๊อ ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลจีนในกรุงการาจี เมืองหลวงของปากีสถาน ทั้งนี้ กองกำลังปลดปล่อยบาลูจิสถาน (BLA) ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่ต่อต้านการลงทุนของจีนในพื้นที่ ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนั้น
ขณะนี้ จีนกำลังลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่ทั่วปากีสถาน รวมถึงในภูมิภาคบาลูจิสถานซึ่งเป็นบริเวณที่ยากจนที่สุดในปากีสถาน และเป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นหลายครั้ง
บาลูจิสถานกำลังถูกเปลี่ยนแปลงโดยโครงการของจีน ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน ซึ่งสร้างเครือข่ายถนน ทางรถไฟ และท่อส่งก๊าซ ที่เชื่อมโยงจีนกับปากีสถาน ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของรัฐบาลจีน
จากการโจมตีในวันพุธที่ผ่านมาถูก รานา ซาเนาลาฮ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน ได้ออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ “รับไม่ได้”
“ความปลอดภัยของประชาชนจีน ควรถูกรับรองในทุกทาง” ซาเนาลาฮ์ทวีตข้อความลงทวิตเตอร์
ที่มา: