ไม่พบผลการค้นหา
กรมสุขภาพจิต ระบุ การมีทัศนคติแบบสุดโต่ง ไม่ว่าด้านบวกหรือลบ มีโอกาสทำให้เกิดความทุกข์ได้ง่าย แนะวิธีจัดการกับความทุกข์ คือ การมีพื้นที่ หรือ มีงานอดิเรก ที่สามารถปลีกตัวไปแสวงหาความสงบ หรือความสุขตามที่ต้องการได้ รวมถึงการมีผู้รับฟังในยามทุกข์

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากการรวบรวมความเห็นและทบทวนองค์ความรู้ในเรื่องความสุข พบว่า เงื่อนไขที่ทำให้คนเรามีความสุขมี 3 เงื่อนไข คือ 1) เงื่อนไขภายนอก หมายถึง ความสุขจากการได้รับการตอบสนองความพึงพอใจโดยเฉพาะจากประสาทสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง เช่น การได้กินอาหารอร่อย ๆ การได้ฟังเพลงเพราะ ถึงจะเป็นความสุขเพียงชั่วคราวก็สามารถประคับประคอง ให้ลืมความทุกข์และสร้างลักษณะนิสัย เห็นความดีงาม จากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน  

2) เงื่อนไขจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น การมีเพื่อน มีกัลยาณมิตร มีมนุษย์สัมพันธ์ ย่อมมีโอกาสทั้งการมีความสุข และผ่อนคลายความทุกข์

3) เงื่อนไขภายในตนเอง ซึ่งเกี่ยวพันกับทัศนคติส่วนตัว หากเน้นการมีคุณธรรม การทำประโยชน์ต่อสังคม และดำเนินชีวิต ในทางสายกลาง ย่อมมีโอกาส เกิดทุกข์ได้น้อยกว่าการดำเนินชีวิต หรือ มีทัศนคติแบบสุดโต่ง

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ที่น่าสนใจ คือ ความสุข ความทุกข์ เป็นของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้กับทุกคน เกิดขึ้นชั่วระยะหนึ่งแล้วก็หายไป แต่จะต่างกันที่การเกิดขึ้น และคงอยู่ของ ความสุข ความทุกข์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ ประสบการณ์ และการสรุปบทเรียนของแต่ละคน บางคนมีนิสัยสุขได้ยาก บางคนมีนิสัยทุกข์ง่าย ทั้งนี้คนที่ทุกข์ง่าย ควรต้องระวังความคิดตนเอง มองตน มองคน มองโลก อย่างเป็นกลาง ไม่โน้มเอียงไปข้างลบ ส่วนคนที่สุขยาก ต้องรู้จักเสพสุข มองโลกด้านสวยงาม มีสุขกับสิ่งเล็กน้อย เป็นนิสัย 

นอกจากนี้ยังพบว่า ความคิดที่ทำให้คนเป็น ทุกข์ คือ ความคิดแบบตีตนไปก่อนไข้ (กังวล) ความคิดแบบเข้าข้างตนเอง หรือ เข้าข้างคนอื่นสุดๆ ความคิดลบ หรือ บวกสุด ๆ กล่าวได้ว่า “ความคิดแบบสุดโต่ง” ไม่ว่าด้านบวกหรือลบ คือ ต้นเหตุของความทุกข์ ซึ่งทางแก้คือ ต้องรู้ทันความคิด ความรู้สึก 

"แนวทางจัดการกับความทุกข์ทำได้ง่ายๆ เพียงมีพื้นที่ หรือมีงานอดิเรกที่สามารถปลีกตัวไปแสวงหาความสงบ หรือความสุขตามที่ตัวเองต้องการ และการมีผู้รับฟังในยามที่เราเป็นทุกข์ ซึ่งญาติมิตรทุกคนสามารถเป็นผู้รับฟังความทุกข์ของเราได้อยู่แล้ว" อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว


Photo by Andrik Langfield on Unsplash