ไม่พบผลการค้นหา
กรมส่งเสริมการเกษตร ขอให้เกษตรกรที่ต้องการขอใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด รีบมาขึ้นทะเบียนหลังเพาะปลูก 1 สัปดาห์ เพื่อให้การตรวจสอบการขอใช้สิทธิเป็นไปอย่างรวดเร็ว

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เนื่องจากการวิจัยและการแพทย์พบว่าสารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยจะเกิดอันตรายในระยะยาวและก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อม

โดยได้ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 5 ฉบับ เพื่อจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 20 ต.ค. นี้ ซึ่งการจำกัดการใช้สารไม่ได้ห้ามทั้งหมดแต่อนุญาตให้เกษตรกรใช้ในปริมาณและพื้นที่จำเป็น มีการกำหนดอัตราส่วนพื้นที่และการใช้ ไม่อนุญาตให้ใช้ในพื้นที่แหล่งต้นน้ำ

สำหรับเกษตรกรที่จะใช้สารเคมีดังกล่าวจะต้องขึ้นทะเบียนก่อน โดยแบ่งเป็นเกษตรกรที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเอกสารสิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินหรือหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินมายื่นเพื่อขึ้นทะเบียนที่เกษตรอำเภอที่แปลงเพาะปลูกตั้งอยู่ ส่วนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วจะต้องมาแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร 

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะกระทำเพียงครั้งเดียว จากนั้นในการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรสามารถแจ้งที่สำนักงานเกษตรอำเภอ แจ้งผู้นำท้องถิ่นหรืออาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือ แจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DOAE ฟาร์มบุ๊ก ทั้งนี้ขอให้เกษตรกรที่ปลูกพืชแล้วให้รีบมาขึ้นทะเบียนเกษตรโดยเร็วเพื่อให้การขอสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับกระบวนการสมัครเข้ารับสิทธิ์การซื้อสารทั้ง 3 ชนิด แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ หากเกษตรกรมั่นใจว่ารู้วิธีการใช้สามารถสมัครเข้ารับการทดสอบเพื่อรับสิทธิ์ได้ทันที การสมัครเข้ารับการอบรมก่อนสอบ สมัครเข้ารับการอบรมทางเว็บไซต์และขอร���บการทดสอบ ขณะที่ในส่วนของผู้ขายจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเพื่อถ่ายทอดความรู้และทดสอบความรู้เช่นเดียวกัน