ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 เป็นโจทก์ ฟ้องนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เป็นจำเลย ฐานขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส
กรณีนายสมชาย เมาขับรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ อี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก พังยับเยิน วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร หรือรองตี๋ งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาเสียชีวิต
ส่วน ด.ญ.พิชญาภา หรือน้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 01.00 น. วันที่ 12 เม.ย.62 ที่ผ่านมา
ศาลพิพากษา ว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่หลายความผิดจึงลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก สั่งจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด และไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี และห้ามดื่มสุรา
จ่ายเดือนละ 4 หมื่น 8 ปี
นายสมชาย กล่าวว่า อยากขอบคุณครอบครัวผู้เสียหาย ที่สำคัญอย่างยิ่งเลยคือการที่ท่านให้อภัยตนตั้งวันแรกในการกระทำของตน และอนุญาตให้ไปรดน้ำศพตั้งแต่คืนแรก จนถึงการบวชหน้าไฟในวันสุดท้าย การให้อภัยคือบุญที่ประเสริฐ
"ผมบอกกับตัวเองว่าจะต้องตอบแทนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เงินส่วนใหญ่ที่ได้เยียวยาผู้เสียหายทั้งหมดก็จะตกอยู่กับลูกสาวทั้งสองคนของพ.ต.ท.จตุพร"
นายสมชาย กล่าวต่อว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับทางครอบครัวของผู้เสียหายที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวสองคนของพ.ต.ท.จตุพร ซึ่งรวมทั้งหมด 7 ชีวิต ตนคิดว่าเงินที่ใช้จ่ายอยู่คงไม่พอสำหรับ 7 ชีวิตแน่นอน ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบแทนที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้อโหสิกรรมและให้อภัย ตนจึงอยากมอบเงินให้กับน้องทั้งสองคนคนละ 10,000 บาท และค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละ 20,000 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 40,000 บาททุกเดือนเป็นระยะเวลา 8 ปี
"ผมขอให้ พ.ต.ท.จตุพรและภรรยา ไปสู่สุคติสู่ภพภูมิที่ดี ผมขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง2คนให้ดีที่สุด ผมรู้ตัวเองว่า เป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรให้กับผู้ดื่มแอลกอฮอล์ว่าให้ทำตัวอย่างไร แต่สำหรับผมตัดสินใจแล้วว่า จะเลิกดื่มตลอดชีวิต" นายสมชายกล่าว
บุตรสาวทั้งสองคนของผู้เสียชีวิต น้องแพร อายุ 12 ปี และ น้องพลอย อายุ 16 ปี กล่าวว่า ช่วงแรกยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจและกระทบต่อการเรียน แต่สุดท้ายสามารถผ่านมาได้เนื่องจากได้รับกำลังใจจากครอบครัว เพื่อนๆ และสังคม นอกจากนี้ ตนให้อภัยและไม่รู้สึกโกรธแค้น รวมถึงคู่กรณีได้ดูแลเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน
สำหรับคดีดังกล่าว ก่อนหน้านี้จำเลยได้ชดใช้ให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต เป็นเงินจำนวน 45 ล้านบาท และญาติไม่ติดใจเอาความ