พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีหลายกิจกรรมด้วยกัน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป ที่รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน ในระดับจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเตรียมการเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่พิธีพลีกรรม ตักน้ำอภิเษก เป็นต้น โดยจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 6 เมษายนเป็นต้นไป ซึ่งพระราชพิธีดังกล่าวจะมีตั้งแต่ 3 ห้วงเวลาเป็นต้นไป คือ ก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนเมษายน และตั้งแต่วันที่ 4-6 พฤษภาคม และสุดท้ายคือห้วงเวลาหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่มีหลายโครงการทั้งโครงการของรัฐบาล ภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วม โดยได้มีการเสนอโครงการต่างๆ เข้ามาให้คณะกรรมการพิจารณาแล้ว และพิธีการต่างๆ เหล่านี้จะต้องดำเนินการอย่างสมพระเกียรติ และบ้านเมืองเต็มไปด้วยความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี อยากให้ทุกคนใช้โอกาสนี้ในการนำพาประเทศไทยไปสู่ความสงบสันติ อย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เพื่อประเทศไทยของเรา

ด้านพันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท ทั้งพนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ ทั้งหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ลาบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยไม่ถือเป็นวันลา และได้รับเงินเดือนตามปกติจนถึงวันลาสิกขา ระหว่างวันที่ 2-16 พฤษภาคม 2562 รวม 15 วัน และจะไม่มีผลถึงสิทธิในการลาบรรพชาอุปสมบทในอนาคต 

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า แสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเป้าหมายไม่น้อยกว่า 6810 รูปทั้งส่วนกลางและภูมิภาค