นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แนะนำถึงกรอบกำหนดการเลือกตั้งว่า หากรัฐบาลยึดตามกรอบเวลาเดิมในการจัดการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 รัฐบาลก็ยังสามารถเตรียมการพระราชพิธีสำคัญของคนไทยได้อย่างสมพระเกียรติ เพราะ กกต. จะเป็นผู้จัดการเลือกตั้ง และรัฐบาลเองไม่ได้ลงแข่งขันด้วย รัฐบาลสามารถเตรียมการได้เต็มที่ และทุกอย่างก็สามารถดำเนินการต่อไปตามกรอบเวลา 

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เตรียมหารือกับ กกต. ว่า กกต. และรัฐบาล จะต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญของประเทศ และสามารถเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ประชาธิปไตยได้ ส่วนการขยับวันเลือกตั้งออกไปโดยอ้างปัญหาทางเทคนิค เช่น การพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทันนั้น เชื่อว่า หากมีการขยับออกไปไม่เกิน 2 สัปดาห์ ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับได้ แต่ก็อาจกระทบต่องานสำคัญของคนไทยได้ ซึ่งทุกอย่าง จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล และ กกต. แต่ทางที่ดีควรยึดตามกำหนดเดิม

นายสมชัย ยังบอกด้วยว่า หากรัฐบาลประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งล่าช้า จน กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทัน 24 กุมภาพันธ์ 2562 ไม่ควรถือเป็นความผิดของ กกต. เพราะ รัฐบาล จะระบุว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับ กกต. ไม่ได้ ถือเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว หรือหากรัฐบาลประกาศพระราชกฤษฎีกาตามกำหนดแล้ว แต่ กกต. เลื่อนวันเลือกตั้งเอง จึงจะถือเป็นความผิดชอบ กกต. พร้อมให้ติดตามการหารือระหว่างนายวิษณุ กับ กกต. ในวันนี้ (3 มกราคม 2562) ด้วยว่า ถ้าประชุมเสร็จต่างฝ่าย ต่างแยกย้ายคนละทิศคนละทาง มีแนวโน้มอาจเลื่อนการเลื่อนตั้ง แต่ถ้ามีการแถลงข่าวร่วมด้วยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กำหนดการยังอาจคงเดิม ซึ่งเป็นการตีความจากภาษากาย 

นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรอบเวลาตามที่บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ที่ให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่วันที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับ มีผลใช้บังคับ หรือจะต้องไม่เกิน 9 พฤษภาคม ซึ่งวันที่ 9 พฤษภาคม ถือเป็นวันทำการ ซึ่งอดีตประเทศไทย ไม่เคยจัดการเลือกตั้งในวันทำการ และถ้าให้ตรงกับวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ไม่สามารถจัดได้ เพราะจะตรงกับงานพระราชพิธีสำคัญของคนไทย หรือพ้นกำหนด 150 วัน หลังวันที่ 9 พฤษภาคม ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้น จะต้องไม่ลืมว่า ตนได้เคยตั้งข้อสังเกตเรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ เพราะรัฐธรรมนูญ กำหนดให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ซึ่งไม่มีใครสามารยืนยันได้ว่า จะรวมถึงการประกาศผลร้อยละ 95 ด้วยหรือไม่ กกต. อาจจะต้องรับผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่ง ฉะนั้น หากยึดกรอบการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ เช่นเดิม ก็จะถือว่าปลอดภัย และ กกต. สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ตามกำหนด ส่วนการประชุมสภานัดแรกนั้น ก็น่าจะเกิดขึ้นภายหลังการพระราชพิธีเสร็จสิ้น