ไม่พบผลการค้นหา
'เผ่าภูมิ' กมธ.งบฯ ปี 66 พรรคเพื่อไทย เปิดข้อมูลงบฯ 3 กระทรวงยิ่งขุดยิ่งแปลก - ก.ศึกษา เทงบฯ ซ่อมตึก สพฐ. 4 พันล้านสวนทางโครงการเพื่อการมีงานทำได้แค่ 5 ล้าน - ดีอีจัดงบฯ ย่ำแย่ - ก.พลังงาน ไร้ทางออกแก้วิกฤต รอเพียงเงินกู้เพิ่ม

วันที่ 2 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบฯ ปี 66 แถลงผลการทำงานในสัดส่วน กมธ.ของเพื่อไทย ที่เกี่ยวกับข้องกับงบประมาณกระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงพลังงานและกระทรวงศึกษาฯ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ได้ประชุมจากการประเมินการจัดงบฯ กระทรวงดิจิทัลฯ ถือว่าย่ำแย่ ไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 60 จาก 64 ซึ่งถือว่ารั้งท้าย พร้อมฉายภาพให้เห็นภาพว่างบฯ ปี 66 ทุ่มไปกว่า 2 พันล้านที่กรมอุตุฯ ซึ่งการทำงานซ้ำซ้อนกับภาคเอกชนที่ทำงานได้ดีและเร็วกว่าประชาชนสามารถดูการรายงานสถานการณ์ผ่านมือถือได้ทันที 

นอกจากนี้การจัดงบฯ ปี 66 ยังให้ศูนย์แอนตี้เฟคนิวส์ถึง 86 ล้านบาท รวมถึงงบฯ โครงการดิจิทัลแวรี่ส่วนใหญ่เป็นงบฯ ผูกพันในการก่อสร้างอาคารที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5 พันล้าน และมีการใช้งบฯ จำนวนมากในการอบรมทั้งที่จริงเรื่องนี้สามารถนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มแพตพอร์มต่างๆ ได้

ขณะที่งบฯ กระทรวงศึกษา เผ่าภูมิ ระบุว่า วันนี้สิ่งที่ได้เห็นกับตาคือคุณภาพการศึกษาไทยต่ำสุดขีด เห็นได้จากผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา รวมถึงปัญหาของครูผู้สอนยังถูกละเลยโดยยังไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้สิ่งที่ตนเจอใน กมธ.งบฯ ปี 66 พบว่าการของบฯ กระทรวงศึกษา ยังมีความแปลกคือผลการประเมินความสามารถทางด้านการแข่งขันของการศึกษาไทยอยู่ที่อันดับ 53 จาก 64 แต่ ก.ศึกษาฯ กลับตั้งเป้าไว้ที่ 55 นี่จึงเป็นคำถามที่น่าสงสัย

ขณะที่งบฯ ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุ่มไปกับการซ่อมแซมอาคารมากถึง 4 พันล้าน สวนทางกลับงบฯ โครงการการศึกษาเพื่อการมีงานทำ กลับได้รับเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่างบฯ ก.ศึกษาส่วนใหญ่ไปตกที่กลุ่ม 10 จังหวัดเดิมๆ ซ้ำๆ ซึ่งได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของงบฯ การศึกษาทุกจังหวัด ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าปัญหาการศึกษาถึงอย่างไรก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ถ้าจัดงบณฯ เช่นนี้

เผ่าภูมิ ระบุอีกว่า งบฯ ด้านพลังงาน หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพลังงานที่มาชี้แจงต่อ กมธ.งบฯ กลับไม่เห็นถึงข้อเสนอทางออกที่ชัดเจนในการปัญหาพลังงานของไทย เพียงแต่ระบุว่ามีทางออกเดียวคือต้องรอเงินกู้เพิ่มเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม