ไม่พบผลการค้นหา
'สมยศ' พร้อม 3 นักกิจกรรม เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดี พรก.ฉุกเฉิน ที่ สน.นางเลิ้ง เหตุยื่นหนังสือ UN ร้องเรียนรัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นการสลายการชุมนุมชาวจะนะ เรียกร้องปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการดำเนินคดี ม.112 และการยกเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์

ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมด้วย เจษฎา ศรีปลั่ง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน กลุ่มทะลุฟ้า) และเพลง ทัพมาลัย นายกองค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนจากกรณีการชุมนุม และยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) ร้องเรียนรัฐบาลกณีละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นการสลายการชุมนุมชาวจะนะ เรียกร้องปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการดำเนินคดี ม.112 และการยกเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2564 ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา และจะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแถลงต่อพนักงานสอบสวนต่อไป

สมยศ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาเสร็จว่า คดีเกิดจากการใช้สิทธิเสรีภาพการยื่นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2564 และต่อมาถูกกล่าวหาและดำเนินคดีในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน กรณีนี้ตนถือว่าเป็นการใช้กฎหมายแบบบิดเบือนเป็นการใช้กฎหมายที่คุกคามเสรีภาพพื้นฐาน เรื่องเรื่องนี้จะได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนต่อไปในวันที่ 31 ม.ค. 2565 เวลา 13.00 น. และในโอกาสต่อไปจะร้องเรียนไปต่อ คณะมนตรี ของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป

"เพราะว่าการที่ประชาชนคนไทยมาร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและต้องถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมันแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยที่มีคำมั่นสัญญา ว่าจะปกป้องนักสิทธิมนุษยชน กลับไม่ได้ดำเนินการเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับนานาชาติ ดังนั้นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน" สมยศ กล่าว

ด้านเจษฎา ศรีปลั่ง กล่าวว่า อยากให้ทุกคนจับตาดูให้ดีว่าการดำเนินคดีในคดีนี้จะเป็นเช่นไรเพราะเรายืนยันว่าใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ตนเพียงไปยื่นหนังสือ และถูกดำเนินคดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิ่งที่จังหวัดบุรีรัมย์กลับไม่ถูกดำเนินคดีครั้งที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ซึ่งครั้งนี้ต้องจับตาและต้องติดตามการละเมิดสิทธิมนุษยชนกันต่อไป