อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการขอบคุณรองนายกฯและรัฐมนตรีทุกคน ที่ร่วมกันทำงานในการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยตลอดช่วงการประชุม และมั่นใจว่าการประชุมในส่วนของเนื้อหาสาระจะเป็นไปตามหัวข้อ Open connect Balance ที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ ถือว่าสัปดาห์การประชุมเอเปค เริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่นายกฯ ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนเยาวชนเขตเศรษฐกิจเอเปค ในโครงการ APEC Voies of the future และยังได้เปิดนิทรรศการ BCG ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีทูตานุทูตจากหลากหลายประเทศ กว่า 30 ประเทศ และยังมีผู้แทนอีกเกือบ 50 ประเทศ เข้าร่วม ซึ่งได้ชื่นชมในสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการผลักดันเป้าหมายกรุงเทพฯ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า การประชุมเอเปคเป็นหน้าตาของคนไทยทั้งประเทศซึ่งผลลัพธ์ที่จะได้จากการประชุม คือโอกาสของประเทศไทยในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจการค้าการลงทุนรวมทั้งความร่วมมือด้านต่างๆ ที่จะเป็นโอกาสในการที่ประเทศไทยจะได้ประชาสัมพันธ์ในส่วนของศักยภาพในทุกๆ ด้านของประเทศ จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับผู้นำและผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปคในครั้งนี้

โฆษกรัฐบาล เปิดเผยอีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความสำเร็จในการเข้าร่วมการประชุมอาเซียน ที่ประเทศกัมพูชาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทุกอย่างเป็นไปได้ความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์ และเกิดความสำเร็จในการประชุมเกี่ยวกับกรอบอาเซียนและการประชุมทวิภาคี ที่นายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสพูดคุยปรึกษาข้อราชการกับประเทศอื่นๆและองค์กรระหว่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ ได้มีการพูดถึงสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย​ ซึ่งในส่วนของอาเซียนถือว่าเป็นความหวัง เป็นแสงสว่าง ที่จะทำให้เศรษฐกิจของโลกสามารถกระเตื้องขึ้น​ เพราะเป็นโอกาสของอาเซียน โดยเฉพาะโอกาสของประเทศไทยในฐานะที่มีความสามารถในการแข่งขันในหลายๆส่วน​ ที่ได้มีการพัฒนามากขึ้น และยังสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด ได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่สำคัญในฐานะที่เป็นผู้ผลิตอาหารของโลกที่ตอนนี้ความมั่นคงทางอาหารหรือ Food Security ทั่วประเทศ และทั่วโลกพูดถึงเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นอุปสรรคหลายๆอย่างที่อาเซียนและไทยกำลังพบ คือ ต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปัญหาปุ๋ยแพงราคาสูง​ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงไปด้วยซึ่งในเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาเพียงเฉพาะแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของทั่วโลกที่จะต้องมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ที่มีการประชุม G20 ที่ อินโดนีเซีย จึงต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ว่าหลังจากการประชุมอาเซียนแล้ว จะมีการพูดในประเด็นเพิ่มเติมในส่วนใดอีก เพราะหลังจากนี้ก็จะมีการประชุมเอเปค ที่ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จึงอาจจะมีการพูดคุยกันต่อเนื่องในสถานการณ์ต่างๆ