เศรษฐกิจ
'อาลีบาบา' ทุบสถิติยอดขาย 11.11 ทะลุ 2.2 ล้านล้านบาท
11 พ.ย.ของทุกปี กลายเป็นช่วงมหกรรมลดราคาสินค้า ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง 'อาลีบาบา' ในปี 2552 ด้วยรายได้เพียง 237 ล้านบาท
ยอดขายสินค้าที่แพลตฟอร์มทำได้เมื่อ 11 พ.ย. 2563 ทะยานสูงถึง 4.982 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมง อีกทั้ง อาลีบาบายังทำรายได้ทะลุสถิติปีก่อนหน้าที่ 2.684 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาทไปในเวลาสั้นๆ
เท่านั้นยังไม่พอ ณ ช่วงพีค แพลตฟอร์มมีการซื้อขายสินค้าถึง 5.83 แสนคำสั่งซื้อ ภายในระยะเวลา 1 วินาที
ด้านคู่แข่งอย่าง JD.com มียอดขายในช่วงเทศกาลลดราคาเดียวกันราว 2.715 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ระดับ 2.044 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 9.3 แสนล้านบาท
ยุคไลฟ์สตรีมขายของ
วิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาผลักดันให้ผู้บริโภคต้องหันมาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตัวเลขย้อนหลัง 12 เดือน นับจากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาของช่องไลฟ์สตรีมขายของจากเว็บไซต์เถาเป่า สามารถทำรายได้สูงถึง 3.5 แสนล้านหยวน (16 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นเกือบ 5% ของยอดขายสินค้ารวมทั้งหมดของกลุ่มบริษัทในปีงบประมาณ 2562
ระหว่างเดือน มี.ค.-มิ.ย.ช่องไลฟ์เห็นยอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นถึง 160% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดการเติบโตในฝั่งผู้ค้าสูงกว่า 220%
ทั้งนี้ แม้ยอดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และการไลฟ์สตรีมขายของจะเพิ่มขึ้น แต่ เออร์นัน ขุย นักวิเคราะห์ผู้บริโภคจีน ย้ำว่า ตัวเลขที่ทำลายสถิติไม่อาจเป็นเครื่องยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนกลับมาสู่สภาพเดิมก่อนเกิดโควิด-19 ได้ อีกทั้งผลิตภัณฑ์หรือสินค้าบางประเภทไม่ได้รับผลดีจากกิจกรรมลดราคาที่เกิดขึ้น
อ้างอิง; WSJ, Nikkei Asian Review, CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;
