เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่จังหวัดระนอง ว่า หลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่มายังจังหวัดระนอง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติให้มีการปรับปรุงท่าเรือ เพื่อให้รองรับต่อการท่องเที่ยวและการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาให้เป็นระบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อให้ประชาชนและนักธุรกิจทำมาค้าขายให้สะดวกยิ่ง 

ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ ก็จะเป็นโครงการที่จะสร้างงานและสร้างรายได้ โดยจะต้องศึกษาถึงข้อร้องเรียนจากฝ่ายที่เห็นชอบ และจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป 

พร้อมสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน เร่งรัดการให้สัญชาติและพิสูจน์สิทธิ์ให้เร็วยิ่งขึ้น ของกลุ่มชาติพันธ์ุ นอกจากนี้ได้ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย สร้างสะพานให้เด็กชาวมอร์แกน ให้สามารถที่จะเดินทางข้ามไปโรงเรียนได้ 

ส่วนการพัฒนาการท่องเที่ยวหลังจากที่ได้ดู บ่อน้ำพุร้อนมาเมื่อวานนี้ก็จะต้องมีการผลักดันให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น เพราะเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าที่ประชุม ครม. ยังได้เห็นชอบโครงการกลุ่ม 6 จังหวัด 13 โครงการมูลค่า 350 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาท และโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชนอีก5 โครงการ 202 ล้านบาท โดยให้ใช้งบประมาณของปี 2566 ในส่วนงบกลางไปก่อน

ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นกับคุณครูเวรที่จังหวัดเชียงราย ขณะเข้าเวรวันหยุด นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการเห็นชอบให้ยกเว้นมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ที่มีมามากกว่า 20 ปี เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป จึงให้มีการ ยกเลิกและงดเว้นครูเวร โดยให้มีการรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น และลำดับต่อไปหน่วยงานต่างๆ ก็จะนำไปพิจารณาดำเนินการ 

นอกจากนี้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนทั้งประเทศ พร้อมให้มีการเร่งจัดหางาน เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงของกลุ่มวัยรุ่น ที่เริ่มมีพฤติกรรม เป็นภัยต่อสังคม 

นายกฯ ระบุต่อว่า ที่ประชุมได้มีการเร่งรัดให้กระทรวงการท่องเที่ยว จัดการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา เวียดนาม ลาวและมาเลเซีย โดยมีประเทศไทยเป็นผู้นำ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการพูดคุยกันถึงเรื่อง พ.ร.บ.การประมง โดยเห็นชอบในหลักการ แต่ยังคงต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งได้เร่งรัดให้มีการนำกลับมาพิจารณาในคณะรัฐมนตรีภายในอาทิตย์หน้า

ชี้เหตุ 'ยกเลิกมติครูเข้าเวร' ใช้คนผิดประเภท-ล้าหลังไม่ตรงยุคสมัย

ชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ เปิดเผยว่า เศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ สั่งการต่อ​ที่ประชุม​คณะรัฐมนตรี​ ว่า การอยู่เวรของครู จากการที่เป็นกระแสข่าวมาเมื่อเร็วๆนี้ ว่ามีครูท่านหนึ่ง อยู่เวรยามเฝ้าโรงเรียน แล้วมีคนร้ายเข้าไปทำร้าย นายกรัฐมนตรีรู้สึกเสียใจมาก ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถึงได้ปรารภต่อที่ประชุมว่า มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2542 ที่ให้มีการมอบหมายเป็นภาระของครูในการเข้าเวรยาม เป็นมติที่ล้าหลัง ไม่ตรงกับยุคสมัย ซึ่งทุกวันนี้ไม่จำเป็นจะต้องให้ครูไปเฝ้าเวรยาม เพราะปัจจุบันมีเครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยี รวมถึงบริษัทรักษาความปลอดภัย พร้อมกับมองว่าเป็นการใช้คนผิดประเภท ในการเอาครูไปเฝ้าเวรยาม นายกรัฐมนตรี จึงขอให้ยกเลิกมติ ครม.ย้อนหลัง ซึ่งมตินั้นมีผลในทางกฎหมาย ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบยกเลิกมามติดังกล่าว

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า​ ให้คนในพื้นที่สิ่งที่เห็นเป็นลักษณะเด่นชัดคือ ในพื้นที่จังหวัดระนอง โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและสาธารณูปโภคอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างทรุดโทรม​ ขาดการบูรณะซ่อมแซมมานาน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเสริมนโยบายการท่องเที่ยวที่ภาครัฐกำลังเน้น และขณะนี้ไม่ได้มาตรฐานพอสมควร​ ซึ่งสั่งการขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการจัดทำแผนที่จะยกระดับฟื้นฟูซ่อมแซมให้สาธารณูปโภคทุกชนิดอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี​ มีมาตรฐาน​ และสวยงาม รวมไปถึงท่าเรือต่างๆขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ไปพิจารณา เพื่อให้มีการยกระดับมาตรฐานของสาธารณูปโภคการขนส่งและท่าเรือต่างๆ

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การประชุมที่เมืองดาววอส​ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้พูดคุยกับภาคประชาชนของยุโรปที่มีธุรกิจเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยโดยเฉพาะเวชภัณฑ์ยา ได้รับทราบความเห็นสะท้อนว่า เมืองไทยเวลามาทำธุรกิจมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับ ที่ยุ่งยากซับซ้อน ทำให้เรื่องดีๆได้นำกลับมาใช้แต่เมืองไทยกลับยากเย็นแสนเข็ญแต่ประเทศอื่นที่มีมาตรฐานด้านการแพทย์สูงระดับโลกได้นำกลับมาใช้ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ต้องการให้ปี 2567 ให้ทุกหน่วยงานทุกกระทรวงทบวงกรมไปพิจารณาทบทวนหากต้องยกเลิกก็ยกเลิกหรือแก้ไขกฎระเบียบอะไรก็ตามที่จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสามารถได้รับการอำนวยการดำเนินการไปอย่างราบรื่นไม่ต้องไปเจอกับกฎระเบียบต่างๆที่ก่อให้เกิดผลเรื่องของความล่าช้า รับทราบการจัดการ 

ขณะเดียวกันที่ประชุมยังรับทราบ การแก้ไขปรับปรุง พ.ร.ก.การประมง ปี​ 2558 ซึ่งส่งผลต่อการประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ที่มีการเน้นการแก้ไขปัญหาการกระทำความผิดประมง เน้นที่การลงโทษไม่ได้เน้นที่การคุ้มครองการประกอบอาชีพ โดยนำเข้าเรียกร้องของชาวประมงมาใช้ในการประกอบพิจารณายกร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งได้รับความเห็นชอบ หรือร่างโดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทางทะเล เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการประมง โดยที่ประชุมเห็นด้วยในหลักการแต่อย่างไรก็ตามข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เมื่อนำเสนอเข้ามาแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะคณะกรรมการ ที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ขอให้นำกลับไปรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด และในการประชุม ครม. ครั้งหน้า มานำเสนอ เพื่อให้ครมพิจารณา