ไม่พบผลการค้นหา
'รมว.ดีอี' มอบรางวัล ‘Hackulture 2023 Illuminate Thai’ นำดิจิทัลยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่ระดับสากล สร้าง ‘Soft Power’ ยกระดับเศรษฐกิจประเทศ

วันที่ 25 ม.ค. 2567 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานมอบรางวัลกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ ‘Hackulture 2023 Illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล’ ชิงถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้โครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Cultural Heritage) ระยะที่ 2 โดยมี เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ธีรวุฒิ ธงภักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วม ณ โรงแรม Graph Hotel รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

ประเสริฐ กล่าวว่า มรดกทางวัฒนธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของชาติไทย กระทรวงดิจิทัลฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างต้นทุนทางวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัล ที่เข้าถึงง่ายและน่าสนใจ กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาแฟชั่นไทยให้มีความร่วมสมัยและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างต้นทุนทางวัฒนธรรม สำหรับนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการสร้างความสามารถในการแข่งขันในทางเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ประเสริฐ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นในด้านแฟชั่น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทยทั้งสิ่งทอ เครื่องแต่งกาย เครื่องหนัง เครื่องประดับ อัญมณี หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ดังนั้น การถ่ายทอดแฟชั่นไทยสู่รูปแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นในมิติด้านเทคโนโลยี หรือมิติด้านสื่อมัลติมีเดีย จึงเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะสามารถสร้าง Soft Power ให้กับประเทศไทยได้ ซึ่งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อให้คนไทยมองเห็นถึงคุณค่าและเกิดความหวงแหนในมรดกวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้าน Digital Content เตรียมพร้อมรองรับอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ

ภุชพงค์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สดช. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Cultural Heritage) ระยะที่ 2 โดยมีกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโดยผ่านกระบวนการห้องปฏิบัติการนโยบายสาธารณะ หรือ Policy Lab เพื่อดำเนินการจัดทำมาตรการ หรือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม Digital Content ในมุมมองด้านวัฒนธรรม เพื่อสร้าง Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ ที่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย และ 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ (Hackathon) การส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล เพื่อเชิญชวนบุคคลที่มีความสนใจ ร่วมสร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรมให้อยู่ในรูปแบบ Digital Content อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Soft Power ของประเทศ

ภุชง กล่าวว่า กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมไทยสู่คนรุ่นใหม่ โดยได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ผ่านการนำเสนอด้วยการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ทีมที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในรอบแรก จำนวน 40 ทีม ได้เข้าร่วมค่ายฝึกอบรม Boot camp เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ การธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติ การสร้างสรรค์ผลงานและการถ่ายทอดเรื่องราว และฝึกปฏิบัติการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้อยู่ในรูปแบบ Digital Content เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งทั้ง 40 ทีม ได้เข้าร่วมกิจกรรมนำเสนอผลงาน (Pitching) เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 โดยมีเพียง 12 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบนำเสนอผลงานรอบสุดท้าย (Grand Pitching) โดยแบ่งเป็น 2 สาขา คือ สาขาเทคโนโลยี จำนวน 2 ประเภท ได้แก่ นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา จำนวน 3 ทีม และประชาชนทั่วไป จำนวน 3 ทีม และสาขาสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 2 ประเภท ได้แก่ นักเรียน/นิสิต/นักศึกษา จำนวน 3 ทีม และประชาชนทั่วไป จำนวน 3 ทีม 

สำหรับผลการแข่งขัน ทีมผู้ชนะการแข่งขันที่ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ ทีม Fash.Design สาขาเทคโนโลยี : ประเภทนักเรียน/นิสิต/นักศึกษา ประกอบด้วย 

- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม 4DEV

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม The Board ThaiGuideGame

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม Metampta

ประเภทประชาชนทั่วไป

- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Fash.Design

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม Fashion Verse

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม DM-TRU Warrior

สาขาสื่อมัลติมีเดีย : ประเภทนักเรียน/นิสิต/นักศึกษา

- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Y2Thai

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม Thai Style

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม Cocoon

ประเภทประชาชนทั่วไป

- รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม CrowdMart Thailand

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีม FA DPU

- รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม Moody (มูดี้)