ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ขอทุกฝ่ายต่อยอดร่างแผน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ยืนยันไม่เคยทอดทิ้งชาวบางกลอย ลั่นดูแลดีกว่าบางพื้นที่ แจงติดลิฟต์ตึกไทยคู่ฟ้าติดเพื่ออำนวยความสะดวกคนสูงอายุ คนพิการที่เข้ามาพบ ขณะเร่ง ศบค. เคาะมาตรการผ่อนคลายช่วงเทศกาลสงกรานต์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ย้ำนำเข้าวัคซีน ไม่ปิดกั้นเอื้อผลประโยชน์ใคร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติครั้งแรกของปีนี้ โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเรื่องการพัฒนาต่อยอดจากเรื่องที่ทำมาแล้ว ซึ่งที่ประชุมครั้งที่ผ่านมา ได้เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทย ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ได้รับประโยชน์ในกิจการหลายสาขาด้วยกัน 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นเวลาเกือบ 30 นาทีก่อนการประชุม คาดว่า มีการหารือ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังพรรคพลังประชารัฐ คว้าชัยในพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และ รายชื่อว่าที่รัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ

67AADAF6-07C5-4BB5-96E9-12510585487E.jpeg


ยันไม่เคยทอดทิ้งชาวบางกลอย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาชาวบ้านในพื้นที่บางกลอย ว่า ได้ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปดำเนินการในเรื่องนี้ ร่วมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แก้ปัญหาไปแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งศาลเองก็มีคำสั่งออกมาแล้ว ว่ามีคำสั่งออกมาอย่างไร ในการที่จะอพยพกลับไปสู่พื้นที่เดิม พื้นที่ป่า พื้นที่อุทยาน ที่ผ่านมาได้มีการย้ายคนมา 2-3 ครั้งแล้ว และใน 2-3 ครั้ง ตนก็ได้ขอข้อมูลจากกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาดู ว่าได้มีการดูแลชาวบ้านดีหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับการชี้แจงกลับมา ว่าบางอย่างดีกว่าพื้นที่อื่นๆ ด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นต้องไปดูว่าเรื่องนี้ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร ถ้าทุกคนทำกันตามใจชอบแล้วจะทำอย่างไร ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของป่าและอุทยาน และพื้นท่ีทำกิน ซึ่งรัฐบาลนี้แก้ปัญหาทุกเรื่อง และใช้กลไกลใหม่ๆ ออกมาหลายอย่างด้วยกัน 

วันนี้เองมีกลุ่มพีมูฟ ซึ่งก็นำเรื่องที่ร้องเรียนมาไปเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. แล้วกับทุกกลุ่ม ก็ต้องทยอยดำเนินการให้ไป ในการจัดหาพื้นที่ทำกินให้ 

ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ได้มีเสียงปราศรัยจากผู้ชุมนุมกลุ่ม พีมูฟ ข้างทำเนียบรัฐบาล ที่ใช้เครื่องขยายเสียงดังได้ยินมาถึงตึกไทยคู่ฟ้า ที่มากดดันรัฐบาลเรื่องบางกลอย โดยนายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า ใช้เครื่องขยายเสียงได้ขออนุญาตหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราก็ยังไม่ได้ไปว่าอะไรเขา โรงเรียนที่อยู่ตรงนี้ มหาวิทยาลัยที่อยู่ตรงนี้อีกด้วย และเสียงที่ดังในขณะนี้ ก็ทำให้ตนเสียสมาธิในการทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องของผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะชุมนุมอะไรก็แล้วแต่ 


เร่ง ศบค.เคาะมาตรการผ่อนคลายช่วงสงกรานต์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการคลายล็อกมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า จะมีการเปิด ให้มีการเดินทางได้ทุกพื้นที่ โดยต้องหารือแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้อย่างไร ส่วนกิจกรรมต่างๆก็กำลังหารือในที่ประชุม ศบค.อยู่ ว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการอะไรได้บ้าง ซึ่งต้องหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขก่อน เพราะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงหลายหน่วยงาน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในรอบใหม่ จากการเคลื่อนที่ของ ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อีกทั้ง ในช่วงสงกรานต์คาดหวังว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูรายได้ เพื่อชดเชยในช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าจะได้ข้อสรุปก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้ทันเพื่อการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า ซึ่งขณะนี้ตนได้เร่งรัดไปแล้ว


เร่งพิจารณาข้อกำหนดพาสปอร์ตวัคซีน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจัดหาวัคซีน ตนได้สั่งการให้เร่งรัดมีการประชุมการจัดทำวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งขณะนี้ WHO กำลังจะกำหนดมาตรฐานกลางออกมา เพื่อให้ทุกประเทศใช้ทุกมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดปัญหาในการกักตัว

ส่วนการนำเข้าวัคซีนของภาคเอกชน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้มีการเรียกโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ที่ต้องการนำเข้าวัคซีนเอง พร้อมกับย้ำว่าวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและชี้แจงได้ว่านำเข้ามาอย่างไร จำนวนเท่าไหร่ เพราะไม่สามารถเปิดการนำเข้าแบบอิสระได้ทั้งหมด เนื่องจากมีวัคซีนหลายตัวที่ยังไม่ผ่านการรับรอง และอาจจะมีการปลอมปน จึงต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครทั้งสิ้น และไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับใคร และเป็นสิ่งที่ตนยึดในการทำงานมาโดยตลอด


สร้างลิฟท์ ในตึกไทยคู่ฟ้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการสร้างลิฟต์และเปลี่ยนพรมใหม่เป็นโทนสีเขียวลายใบโคลเวอร์ภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่า การสร้างลิฟต์เป็นเรื่องธรรมดา ตนต้องพัฒนา 3 ตึกภายในทำเนียบรัฐบาลเพื่ออำนวยความสะดวกคนที่มาพบตน ไม่ใช่เพียงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมย้อนถามสื่อว่า ใครเป็นคนถามคำถามนี้มา ไม่เกิดประโยชน์และไม่สร้างสรรค์ เพราะคณะต่างๆที่มาพบตนนั้นมีคนอายุมาก เช่นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งตนไม่ได้ใช้ลิฟต์ดังกล่าว แต่ออกกำลังโดยการขึ้นบันได การติดตั้งลิฟท์เป็นเพียงทางเลือกเพื่ออำนวจสะดวกคนพิการ อย่าไปมองเป็นเรื่องอื่น เป็นคำถามที่ไม่น่าใช้ได้ 

เมื่อถามว่ามีการตีความว่าพรมสีเขียวเป็นสีทหาร โดยนายกรัฐมนตรีย้อนถามสื่อกลับและชี้ไปที่ต้นไม้ ว่า “สีเขียวๆนี้ทหารหรือเปล่า ดูสิ สีเขียวอยู่ตรงไหนบ้าง “

ส่วนเมื่อถามถึงลวดลายของพรมที่มีใบโคลเวอร์สี่แฉกแสดงถึงความโชคดี ความหวัง ความรัก ความศรัทธา เป็นเรื่องของความเชื่อหรือไม่ นายกรัฐมนตรี หยุดฟังคำถามและสะดุดขั้นบันได พร้อมขยุ้มมือเปรียบคำถามของสื่อเป็นเหมือนเปลือกกระพี้ ที่อยู่ตามต้นไม้เหมือนเปลือกของให้ดูที่แกนเพราะประเทศไทยเดินหน้าด้วยแกนหลัก วันนี้ประชุมเรื่อง 5 จี สนใจเรื่อง 5 จี หรือเปล่า รู้เรื่องหรือไม่ แต่คงไม่รู้หลอก รู้แต่การใช้โซเชียล

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ทำเนียบรัฐบาลได้เริ่มทดลองใช้ ลิฟท์โดยสาร ที่สร้างขึ้นภายในตึกไทยคู่ฟ้า โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทดลองใช้ ระหว่างตรวจสอบความพร้อมแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว สำหรับวัตถุประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ ตามแนวทางอารยสถาปัตย์ นับเป็นการสร้างลิฟท์โดยสาร ในตึกที่มีอายุมากกว่า 100 ปี โดยใช้เวลาก่อสร้าง ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ประมาณ 2 เดือน

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อธิบายเพิ่มเติมว่าการสร้างลิฟต์ภายในตึกไทยคู่ฟ้าดำเนินการการแผน งบประมาณและระเบียบราชการ ตอบสนองความสำคัญของอารยสถาปัตย์ และเป็นไปตามแบบโครงสร้างของสถานที่ทำงานของผู้นำประเทศต่างๆ ที่มีการเตรียมพร้อมการให้บริการตามความจำเป็นและความสุขต้องการของทั้งผู้สูงวัย ผู้พิการ เป็นต้น การก่อสร้างคำนึงถึงโครงสร้างตึก ความสวยงามทางศิลปะให้กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมตึก 

KIT_9529.jpg


S__4203796.jpg