ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายการุณ โหสกุล นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ พร้อมด้วยประชาชนชาวคลองสามวาจำนวนหนึ่ง เดินทางมายังโรงพยาบาลมิชชั่น เข้าเยี่ยมนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง โดยมีนางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ให้การต้อนรับ ซึ่ง ส.ส.เพื่อไทยได้สอบถามอาการของนายสิรวิชญ์พร้อมให้กำลังใจนางพัฒน์นรี
จากนั้น ส.ส.เพื่อไทย นำโดยนายจิรายุ ได้เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 250,000 บาทให้กับนางพัฒน์นรี โดยเป็นเงินที่รวบรวมจาก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จำนวน 200,000 บาท และเงินจากชาวคลองสามวา จำนวน 50,000 บาท
นายจิรายุ กล่าวว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 130 กว่าคน ได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อมอบให้กับมารดาของนายสิรวิชญ์จำนวน 200,000 บาท เพื่อบรรเทาภาระการรักษาพยาบาลนายสิรวิชญ์ในเบื้องต้น และมีประชาชนชาวคลองสามวาร่วมบริจาคอีก 50,000 บาท จึงขอให้กำลังใจนางพัฒน์นรีซึ่งมีบุตรชายที่ช่วยเหลือประชาชนและระบอบประชาธิปไตย เป็นนักสู้ของประเทศไทย และเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือเรื่องเงินแล้ว จะดูแลเรื่องของความปลอดภัยให้ด้วย
นายจิรายุ กล่าวย้ำว่า กรณีที่เกิดกับนายสิรวิชญ์นี้ไม่ต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะสังคมเคลือบแคลงใจว่าอาจเกี่ยวข้องกับทางการเมือง ทั้งที่จริงเป็นเรื่องของความเห็นต่าง ซึ่งเป็นสีสันในระบอบประชาธิปไตยจึงไม่ควรมีการทำร้ายกัน แต่ที่ผ่านมาคนที่ไปปล้นธนาคาร ใส่หมวกกันน็อค รถไม่ติดป้ายทะเบียน ผ่านไป 3-4 วัน ตำรวจยังสามารถจับกุมตัวได้ แต่คดีของนายสิรวิญช์คนร้ายมา 3-4 คน กระทำการอย่างอุกอาจ เรื่องแบบนี้รัฐบาลต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว
ด้านนางพัฒน์นรี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเมตตาบุตรชาย ซึ่งจะนำกำลังใจเหล่านี้ไปบอกกล่าวกับบุตรชาย เชื่อว่าบุตรชายจะมีกำลังใจมากขึ้น อย่างน้อยก็เป็นการแสดงออกว่าบุตรชายไม่ได้โดดเดี่ยว ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง สิ่งที่ผ่านมาบุตรชายเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจบ้างในบางเรื่อง ในฐานะนักต่อสู้ที่โดนกระแสโจมตี ซึ่งสามารถผ่านมาได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คิดว่าบุตรชายจะผ่านไปได้เช่นกัน
นางพัฒน์นรี กล่าวต่อว่า คำพูดสุดท้ายที่ได้พูดกับบุตรชาย ดูเหมือนบุตรชายกำลังอ่อนแอ โดยได้พูดว่าคนที่ทำร้ายต้องการตีให้ตาย ทำไมไม่ตีให้ตายือยู่อย่างนี้มันทรมานและปวด ซึ่งส่วนตัวยังห่วงดวงตาของบุตรชายที่ยังไม่มีการรักษา เบื้องต้นยังอยู่ในช่วงของการประเมินอาการ แต่เรื่องของสมองนั้นหมดห่วงแล้ว เพราะสามารถตอบโต้กันได้ และยังจำผู้เป็นแม่ได้ ถึงแม้จะพูดตอบโต้ช้า แต่เป็นการบ่งบอกว่าสมองไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พบแพทย์ที่ทำการรักษาแต่อย่างใด
นางพัฒน์นรี กล่าวด้วยว่า ในฐานะผู้เป็นแม่ต้องมีกำลังใจ ไม่ว่ากำลังใจจะอยู่ตรงไหน ต้องขุดออกมาใช้ให้ได้ เพราะอยู่กันสองคนแม่ลูก ทุกครั้งที่บุตรชายลืมตาจะต้องมีแม่ ในฐานะมารดาต้องยิ้มให้บุตรชายได้ จนถึงขณะนี้ยังมีกำลังใจดีอยู่ ซึ่งกำลังใจที่ทุกคนมอบให้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนที่เป็นแม่ไม่เกิดความท้อถอยและยังยิ้มได้
นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมด้วยนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ได้เดินทางมาเยี่ยมนายสิรวิชญ์ด้วย โดยเมื่อเดินทางมาถึงนางธิดาได้เข้าสวมกอดนางพัฒน์นรีเพื่อให้กำลังใจ
นางธิดา กล่าวว่า การเดินทางมาเพื่อต้องการพบกับแพทย์ที่ให้การรักษานายสิรวิชญ์ และขอข้อมูลทางการแพทย์ นำไปใช้เป็นข้อมูลพิจารณาประกอบการช่วยเหลือนายสิรวิชญ์ โดยครอบครัวโตจิราการมีสมาชิกหลายคนเป็นแพทย์ จึงต้องการช่วยเหลือนายสิรวิชญ์ ซึ่งยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับดวงตาที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ปรากฏว่าไม่ได้พบกับแพทย์ผู้ทำการรักษา มีเพียงหัวหน้านางพยาบาลเท่านั้นที่ได้พูดคุยกัน
โดยทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนายสิรวิชญ์ภายในห้อง ICU ได้ ซึ่งนายสิรวิชญ์ยังมีสติสัมปชัญญะ ทั้งนี้ได้ถ่ายสำเนาใบส่งตัวนายสิรวิชญ์จากโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในครอบครัวด้วย
สำหรับบรรยากาศที่โรงพยาบาลมิชชั่นมีเพื่อนนักกิจกรรมเดินทางมาเยี่ยมนายสิรวิชญ์อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือ บอล รวมถึงนายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ หรือ ครูจุ๊ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่เดินทางมาให้กำลังใจนายสิรวิชญ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าโรงพยาบาลมิชชั่นได้ประสานไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของรัฐ เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ เนื่องจากโรงพยาบาลมิชชั่นไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับดวงตาโดยตรง จึงต้องการแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านโรคเกี่ยวเบ้าตาเพื่อให้ความช่วยเหลือนายสิรวิชญ์