ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไล่คณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯด้าน HIV/AIDS ที่เหลืออยู่ออกยกชุด โดยการส่งจดหมายไล่ออกผ่านบริการส่งของ FedEx

สำนักข่าว Washington Post รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไล่คณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้าน HIV/AIDS ที่เหลืออยู่ออกยกชุด ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นกลยุทธ์ในการกำจัดบุคลากรเก่าเพื่อรักษาคนในทีมของนายทรัมป์เอาไว้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เจ้าหน้าที่ในคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯด้าน HIV/AIDS ได้ยื่นใบลาออกเองไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจำนวน 6 คน จากทั้งหมด 18 คน เพื่อประท้วงการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยมีการออกแถลงการณ์ว่านายทรัมป์และทีมงานไม่ให้ความสำคัญกับการออกนโยบายเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อ HIV พวกเขาจึงขอลาออกเพราะไม่ต้องการทำงานให้กับผู้นำประเทศที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

นายแพททริก ซัลลิแวน นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยอีมอรีของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในคณะทำงานด้านผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS ให้กับรัฐบาลของนายทรัมป์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งดังกล่าวเพื่อให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดีเป็นระยะเวลา 4 ปีเต็ม เริ่มจากเดือนพฤษภาคม 2016 เป็นต้นมา เขาได้กล่าวหลังจากทราบเรื่องว่าตนถูกไล่ออกว่าเขาได้รับจดหมายแจ้งว่าสัญญาจ้างงานของเขาถูกยกเลิก โดยมีผลบังคับใช้ทันที

คณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯด้าน HIV/AIDS เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อย่อ PACHA ได้ปฏิบัติงานให้คำเเนะนำกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวในการออกนโยบายเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ HIV มาตั้งแต่การก่อตั้งองค์กรในปี 1995 โดยสมาชิกของคณะผู้ทำงานทั้งหมดไม่ได้รับค่าจ้างในการให้คำปรึกษาใดๆทั้งสิ้น

คณะทำงานประกอบไปด้วยคนจากหลายหลายอาชีพเช่นแพทย์ อุตสาหกรรมต่างๆ สมาชิกชุมชน และผู้ติดเชื้อ โดยนายสก็อต ชูตส์ ทนายความด้านสิทธิกลุ่มหลากหลายทางเพศขององค์กร Lambda Legal และเป็น 1 ใน 6 คนที่ลาออกจากคณะทำงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กล่าวว่า นโยบายการรับมือกับสถานการณ์ HIV/AIDS จะไม่มีความหมายเลยหากปราศจากความร่วมมือของคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯด้าน HIV/AIDS ซึ่งมีภูมิหลังมาจากหลากหลายอาชีพ

นายชูตส์เคยกล่าวถึงเหตุผลของการลาออกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่ารัฐบาลของนายทรัมป์ ไม่มีการวางแผลกลยุทธ์หรือวิธีการรับมือกับปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อ HIV ใดๆทั้งสิ้น และพวกเขายังไม่มีทีท่าว่าจะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกนโยบายที่เกี่ยวข้องแม้แต่ครั้งเดียว และที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือพวกเขาพยายามที่จะออกกฎใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ติดเชื้อ อย่างเช่นการยกเลิกแผนประกันสุขภาพโอบามาแคร์ของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อ HIV ไม่สามารถเข้าถึงประกันสุขภาพได้ง่ายเช่นเดิม เนื่องจากข้อยกเว้นการรับทำประกัน หรือไม่ก็มีค่าใช้จ่ายในการทำประกันที่สูงขึ้นภายใต้ความคุ้มครองที่ต่ำลง