เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าขณะนี้ 'โอไมครอน' ได้กลายมาเป็นเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่กำลังระบาดหนักอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ โดยกินสัดส่วนการระบาดไปแล้วมากกว่า 73% ของการติดเชื้อใหม่ทั้งหมด หลังการพบเชื้อครั้งแรกในแอฟริกาใต้เพียง 1 เดือน
"นี่ไม่ใช่ มี.ค.2563 ตอนนี้เรามีความพร้อม และเรามีองค์ความรู้มากขึ้น" ไบเดนกล่าวสร้างความมั่นใจต่อสาธารณะอย่างหนักแน่น หลังจากยืนยันว่า 'มาตรการล็อกดาวน์' จะยังไม่เกิดขึ้น
BBC รายงานว่าสิ่งที่ทางรัฐบาลกำลังเร่งทำนอกจากการจัดหาและส่งชุดตรวจด้วยตัวเองให้ประชาชน 500 ล้านชุดถึงบ้านแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มต้นเดือน ม.ค.2565 ก็คือการจัดสถานีการตรวจเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และเพิ่มกำลังความช่วยเหลือจากบุคลกรทางการแพทย์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ 1,000 คน ประจำยังโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ และการเพิ่มซัพพลายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล
ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตที่มีความเกี่ยวข้องกับโควิดโอไมครอนเพียง 1 รายเท่านั้นในสหรัฐฯ โดยเป็นบุคคลวัย 50 ปีในเท็กซัส ผู้ซึ่งมีปัญหาสุขภาพในกลุ่มโรคเสี่ยง และไม่เคยเข้ารับวัคซีน
ไบเดนยอมรับว่านโยบายการบังคับฉีดวัคซีนของเขา 'ไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจเท่าใดนัก' แต่เขายืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตของผู้คน ไม่ใช่เพื่อต้องการควบคุมชีวิตผู้คน
แม้ปัจจุบัน 73% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ไบเดนก็ยังย้ำเตือนให้ประชาชนรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 เพื่อรับมือกับโควิดโอไมครอน เพราะผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน "มีความเสี่ยงสูงมาก"
ด้าน CNN รายงานว่า บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กออกนโยบายเชิญชวนประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนว่า ประชาชนที่มีที่อยู่ในนิวยอร์กจะได้รับเงินทันที 100 ดอลลาร์ หรือราว 3,300 บาท หากตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีน 'โดสแรก' จากหน่วยฉีดของทางมลรัฐฯ โดยหลังยืนยันตัวตนด้วยอีเมล์จะได้รับเป็นบัตรเดบิตมูลค่า 100 ดอลลาร์ทันทีที่สถานีฉีดวัคซีน