ต่างประเทศ
ที่ปรึกษายูเครนลาออกรับผิดชอบ หลังรายงานผิดพลาดอาคารถูกยิงในดนิโปร
คำขอโทษของอเรสโตวิชสร้างความรู้สึกไม่พอใจในบรรดาประชาชนยูเครน และถูกนำไปใช้โดยทางการรัสเซียเพื่อกล่าวโทษต่อยูเครนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ อเรสโตวิชเป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้แถลงรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในรายวัน อย่างไรก็ดี โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อกรณีดังกล่าว
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเหตุการณ์ขีปนาวุธตกใส่อาคารที่พักของประชาชนในเมืองดนิโปร อเรสโตวิชได้ออกมาระบุในการแถลงว่า ตัวอาคารถูกขีปนาวุธของรัสเซียตกใส่ หลังจากขีปนาวุธดังกล่าวของรัสเซียถูกระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงสะกัด โดยยูเครนแถลงว่าขีปนวุธดังกล่าวเป็นขีปนาวุธ Kh-22 ของรัสเซีย ซึ่งยูเครนไม่มีสมรรถภาพมากพอในการยิงสะกัดมันได้ และยังนับเป็นการรายงานที่ผิดพลาดไปจากข้อเท็จจริงอย่างรุนแรง
ชาวยูเครนหลายรายกล่าวโจมตีอเรสโตวิชด้วยความไม่พอใจว่า การออกมาให้ความเห็นที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้รัสเซียสามารถนำประเด็นดังกล่าว ไปใช้ประกอบในการสร้างโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียได้แข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนี่งของยูเครนยยังได้ลงนามกัน เพื่อเรียกร้องให้มีการปลดอเรสโตวิชออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลยูเครนด้วย
อเรสโตวิชโพสต์จดหมายลาออกในเวลาต่อมาและกล่าวว่า เขาได้ทำ “ความผิดพลาดขั้นพื้นฐาน” ก่อนระบุว่า “ผมขอโทษอย่างจริงใจต่อเหยื่อและญาติของพวกเขา ผู้อยู่อาศัยในดนิโปร และทุกคนที่เจ็บปวดอย่างสุดซึ้งจากการรายงานสาเหตุว่าขีปนาวุธรัสเซียยิงใส่อาคารที่พักอาศัย ในฉบับการแถลงที่ผิดพลาดของผมก่อนเวลาอันควร” อเรสโตวิชระบุในเทเลแกรม
อเรสโตวิชเป็นบุคคลที่ชาวยูเครนเห็นหน้าผ่านการแถลงมากที่สุดในช่วงสงคราม ผ่านช่องยูทูปของทางการยูเครนในการรายความคืบหน้าทางสถานการณ์รายวัน ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยช่องดังกล่าวมีผู้ติดตามมากกว่า 1.6 ล้านคน และวิดีโอของเขามักมียอดรับชมมากกว่า 200,000 ครั้ง ทั้งนี้ อเรสโตวิชพูดภาษารัสเซียมากกว่าภาษายูเครนในการแถลงการณ์แต่ละครั้ง
ก่อนการประกาศลาออกของที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน เจ้าหน้าที่รัสเซียใช้ความคิดเห็นของเขาตำหนิยูเครนจากเหตุการณ์ยิงถล่มอาคารพลบเรือนในดนิโปร โดย ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกสำนักประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า การโจมตีของรัสเซีย “ไม่กระทำต่ออาคารที่พักอาศัย” ก่อนระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากระบบการป้องกันทางอากาศของยูเครนเอง ซึ่งรัสเซียได้รับรายงานมาจาก “ตัวแทนบางคนของฝ่ายยูเครน”
จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 รายจากเหตุการโจมตีใส่อาคารในเมืองดนิโปรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ม.ค.) และยังคงมีผู้สูญหายอีกหลายคน ซึ่งมีโอกาส “น้อยมาก” ที่จะพบผู้รอดชีวิต ทั้งนี้ กรุงเคียฟ คาร์คีฟ และโอเดสซา ถูกโจมตีด้วยเช่นกันในวันเดียวกัน ซึ่งทางการรัสเซียระบุว่าการโจมตีมีเป้าหมายเล็งไปที่ที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและพลังงานของยูเครน
ที่มา:
