นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) เผยถึงความคืบหน้าในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือใบอนุญาตเปิดร้านนวดร้านสปาว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560-มีนาคม 2561 มีกิจการที่ยื่นขอรับใบอนุญาตฯ ทั่วประเทศรวมกว่า 3,200 แห่ง เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครมีจำนวนผู้ยื่นคำขอฯกว่า 700 แห่ง ได้ทำการอนุญาตให้แก่ร้านที่ผ่านมาตรฐานไปมากกว่า 80 % ส่วนร้านที่ยังไม่สามารถออกใบอนุญาต เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานบางอย่าง ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ปรับปรุงแก้ไขภายใน 15 วัน หากไม่ผ่านมาตรฐานอีกก็จะไม่ออกใบอนุญาตให้ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย
ขณะเดียวกันกรม สบส.ก็ทำหน้าที่ส่งเสริมสถานประกอบการฯที่เข้าสู่ระบบด้วย เช่น ยกเว้นภาษีสรรพสามิต(ตามประกาศกรมสรรพสามิต) ส่งเสริมให้ร่วมออกบู๊ธทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมให้ได้รับการรับรองมาตรฐานสู่ระดับสากล เป็นต้น ส่วนร้านที่ไม่เข้าสู่ระบบก็เท่ากับเป็นร้านเถื่อน มีโทษฐานเปิดสถานประกอบการฯโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรม สบส.ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนได้ช่วยกันแจ้งเบาะแส ผ่านทางแอพพิเคชั่นไลน์ บัญชีทางการ ชื่อ “ร้องเรียน กรม สบส.” (พิมพ์เว้นวรรค) สำหรับต่างจังหวัดสามารถแจ้งเบาะแสไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่ากรม สบส.ได้จัดทำคู่มือประชาชนแนะนำขั้นตอนการขออนุญาตประกอบกิจการฯ โดยให้ดาวน์โหลดในเว็บไซต์ www.thaispa.go.th
นอกจากนี้ผู้ประกอบกิจการฯควรศึกษารายละเอียดของมาตรฐานในกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาและกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือนวดเพื่อเสริมความงาม พ.ศ.2560 และปฏิบัติตามมาตรฐานให้ครบถ้วน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะลงตรวจประเมิน หากร้านผ่านมาตรฐานทุกประการ ก็จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง และสามารถประกอบกิจการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนลูกค้าก็มีความมั่นใจในการรับบริการ
Photo by Toa Heftiba on Unsplash