นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แถลงผลการชี้มูลความผิดทุจริตเงินทอนวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปีงบประมาณ 2557และ 2558 หลังกองบังคับการป้องกันปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ส่งสำนวนการสอบสวนให้ป.ป.ช.ดำเนินการตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันทร์ อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสานาแห่งชาติ นางประนอม คงพิกุล อดีตรองผอ.พศ.และนายพนม ศรศิลป์ อดีตผอ.พศ. ร่วมกับนางชมพูนุท จันฤาไชย ที่เป็นพลเรือนร่วมกันก่อเหตุ
โดยนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช.เป็นกรรมการอนุกรรมการไต่สวน ได้รวบรวมหลักฐานและเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงโต้แย้ง ซึ่งทั้งหมดได้ชี้แจงเป็นเอกสารยืนยันว่าการเบิกจ่ายนั้นเป็นไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่พยานหลักฐานที่อนุกรรมการได้ตรวจสอบพบนั้นมีการทำเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่ คนจัดหาวัด คนจัดทำเอกสาร และคนอนุมัติงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2557 ที่นางประนอมไปติดต่อวัดพนัญเชิงว่าจะนำงบประมาณมาให้วัดจำนวน 10 ล้านบาท แต่วัดต้องทอนเงินคืน 8 ล้านบาท อ้างว่าจะนำงบไปใช้ในการส่วนราชการอื่นที่ไม่สามารถเบิกได้ ก่อนมาจัดทำเอกสารให้นายนพรัตน์เป็นผู้เซ็นอนุมัติงบโดยไม่ผ่านคณะกรรมการพิจารณา และทางวัดจะทอนเงินคืน 8 ล้านบาท เข้าบัญชีนางชมพูนุท ที่มีความสัมพันธ์กับนายนพรัตน์
จากนั้นปี 2558 นางประนอมจะเข้าไปติดต่อที่วัดเช่นเดิมแต่ครั้งนี้ ได้ทำเรื่องให้นายพนม ศรศิลป์ ในขณะอยู่ในตำแหน่งรองผอ.พศ.รักษาการผอ.พศ . อนุมัติงบเช่นเดิมแต่ครั้งนี้ให้วัดทอนเงินคืนเป็นเงินสด 5 ล้านบาท โดยนางประนอมเป็นคนไปรับเงิน
ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวนั้น ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายนพรัตน์ นางประนอม และนายพนมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147,141,และมาตรา 157 และความผิดวินัยร้ายแรงตามพระราขบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ส่วนนางชมพูนุทที่ไม่ใช่ข้าราชการนั้นมีความผิดฐานสนับสนุนให้กระทำความผิด ซึ่งป.ป.ช.จะส่งเรื่งให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีทางอาญา และหน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการลงโทษตามความผิดวินัยแรง
ขณะเดียวกัน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตั้งเรื่องไต่สวนความผิดอีกจำนวน 8 สำนวน ที่ทาง ปปป.ได้ส่งสำนวนมาให้และป.ป.ช.รับเรื่องไว้เองรวมทั้งหมด 97 เรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบไต่สวนชี้มูลความผิดซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นในเร็วๆนี้
