ไม่พบผลการค้นหา
“เพื่อไทย” วอน “กสทช” ชุดใหม่ หยุดการควบรวม True DTAC เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ชี้ 5 เหตุผลที่ไม่ควรควบรวม แนะ ศึกษาให้ดีไม่เช่นนั้น ปัญหาจะเกิดในอนาคตจนแก้ไขไม่ได้

ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดเลย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง True กับ DTAC กล่าวว่า ตามที่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่ และ ได้เข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยแล้ว จึงอยากขอให้มีการพิจารณาหยุดยั้งการควบรวมของ True - DTAC ที่ส่อแววว่าจะเกิดปัญหาตามมาอย่างมาก และ ประชาชนจำนวนมากแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการควบรวมครั้งนี้ โดยมี 5 เหตุผลดังนี้

1. ผลกระทบต่อตลาดโทรคมนาคมในไทย ดัชนีการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมของประเทศไทยนั้นก็สุ่มเสี่ยงต่อการต่อการใช้อำนาจเหนือตลาดอยู่แล้วในอดีตที่ การควบรวมของ True – DTAC ในครั้งนี้จะยิ่งทำให้ตลาดโทรคมนาคมของไทยเสี่ยงต่อการสูญเสียสภาพการแข่งขันอย่างเสรี เนื่องจากหากมีการควบรวม 2 ผู้ให้บริการในตลาดโทรคมนาคมของไทยจะกินส่วนแบ่งของตลาดรวมกันกว่า 90 % แล้วนั้น จะทำให้ยากต่อการเกิดผู้เล่นหน้าใหม่ เมื่อการแข่งขันลดลง ผลกระทบก็จะตกอยู่กับผู้บริโภค

2. ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับกฏระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากเกิดการควบรวม เนื่องจาก กสทช มีการออกประกาศ เรื่องมาตราการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งเป็นประกาศที่แก้ไขระเบียบในการควบรวม จากการ “ขออนุญาต” เป็นการ “แจ้งให้ทราบ” เท่านั้น ทำให้หน่วยงานไม่มีอำนาจในการให้หรือไม่ให้อนุญาต ตามที่ควร ซึ่งจะส่งผลให้ในอนาคต หากมีการกระทำในลักษณะนี้อีก หน่วยงาน กสทช ก็จะไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนได้ อีกทั้งยังไม่มีระเบียบที่แน่นอนในการดูแลและควบคุมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังการควบรวมธุรกิจ นอกจากนี้ การควบรวมครั้งนี้ยังอาจขัดกับประกาศ เรื่องมาตราการป้องกันมิให้มีการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม อีกด้วย จึงจำเป้นต้องมีการตีความและกำหนดระเบียบให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต

3. การศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบจากการควบรวมในต่างประเทศที่หน่วยงานใช้ประกอบไม่เหมาะสมในการใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาเรื่องนี้ จากการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการควบรวม True-DTAC พบว่า ข้อมูลซึ่งหน่วยงานใช้ในการศึกษาและเปรียบเทียบผลกระทบที่อาจเกิดหลังการควบรวมเสร็จสิ้นนั้น ไม่สามารถสะท้อนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ เนื่องจาก ข้อมูลตัวอย่าง แตกต่างจากกรณีการควบรวมในไทยมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรมีการศึกษาและคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดต่อประชาชนอย่างละเอียดอีกครั้ง 

4. ที่ปรึกษาอิสระเพื่อให้ความคิดเห็นต่อคณะกรรมการ กสทช ที่ได้รับการแต่งตั้ง อาจขัดต่อหลักเกณฑ์ในการเลือกที่ปรึกษาอิสระ ซึ่ง กสทช เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์เอง ในการประชุมของกรรมธิการศึกษาผลกระทบ ได้มีการสอบถามและชี้ให้เห็นถึง คุณสมบัติที่อาจขัดต่อหลักเกณฑ์ของ กสทช เอง ซึ่งเป็นที่กังขาและกระทบความเชื่อมั่นของหน่วยงาน

5. ข้อกังวลจากประชาชนและองค์กรต่างๆ ที่ได้ติดตามการควบรวม True-DTAC ในครั้งนี้ ทุกกลุ่มต่างแสดงความเป็นห่วงและข้อกังวลต่อการควบรวมในครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่สังคมตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ความสามารถในการดูแลและคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชน จากการณีการควบรวมระหว่างสองบริษัทค้าปลีกใหญ่ จนทำให้เสี่ยงจะเกิดการครอบครองตลาดในภาคธุรกิจค้าปลีก ซึ่งทำให้สังคมและองค์กรต่างๆ กักขาในอำนาจการควบคุมของหน่วยงานต่อบริษัทใหญ่เหล่านี้ หากปล่อยให้เกิดการควบรวมระหว่าง True-DTAC ในขณะที่ยังมีข้อกังขาต่างๆมากมาย จะยิ่งตอกย้ำและทำให้ประชาชนหมดความเชื่อมั่นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากเหตุผลเหล่านี้ จึงอยากร้องขอไปยังบอร์ด กสทช ชุดใหม่ เพื่อให้มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง โดยพยายามแก้ไขข้อกังขาต่างๆที่ประชาชนและสังคมกำลังตั้งคำถาม เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนไทย