ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกกองทัพเรือ ระบุโรงพยาบาลจุฬาฯ แจ้งผลตรวจ พลทหารไม่ติดโควิด-19 ด้านผู้ใกล้ชิดเกี่ยวข้องถูกส่งไปสังเกตอาการ ที่อาคารรับรองสัตหีบ เตรียมเดินทางกลับ

สำนักข่าวไทยรายงาน พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่ากรณีที่มีสื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข่าว ว่าพลทหารสุรเดช แสงจันทร์ สังกัด ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ช่วยปฏิบัติราชการ กิจการร้านสวัสดิการกองทัพเรือ ตกเป็นข่าวติดเชื้อโควิด-19 นั้น

ล่าสุดผลตรวจครั้งที่ 3 จาก รพ.จุฬาฯ ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้งในการตรวจเชื้อจากลำคอ ตามวิธีปกติ และการตรวจเชื้อวิธีเพิ่มเติม ด้วยการตรวจหาจากผลเลือด

โดยสาเหตุที่ต้องทำการตรวจถึง 3 ครั้ง และการขอความร่วมมือจาก รพ.จุฬาฯ ร่วมยืนยันผลตรวจด้วยนั้น สืบเนื่องจากการตรวจโรคโดยวิธีปกติ ด้วยการตรวจเชื้อในลำคอ ที่ Lap ของรพ.ปิ่นเกล้าในครั้งที่ 1 และ 2 มีผลขัดแย้ง ตามหลักการวินิจฉัยจึงจำเป็นต้องทดลองนำเชื้อในลำคอไปตรวจที่แล็บ รพ.ที่สอง เพื่อเทียบเคียงผล (Second opinion) และเพื่อให้ได้ผลยุติจึงมีการตรวจเพิ่มเติมอีกวิธีหนึ่ง ด้วยการนำเลือดของคนไข้ไปตรวจด้วย ว่าในกระแสเลือดคนไข้เคยมีการติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหรือไม่

ทั้งนี้ พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการและมอบนโยบายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไว้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ตั้งแต่การกำหนดมาตรการส่วนบุคคล มาตรการให้ปฏิบัติเป็นการส่วนรวมของหน่วย รวมไปถึงมาตรการให้ปฏิบัติเมื่อตรวจพบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หรือหากพบผู้มีอาการไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค

ดังนั้นกองทัพเรือจึงมีแนวทางดำเนินการในเรื่องนี้อย่างชัดเจน และขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องวิตกกังวล เพราะการติดเชื้อโรคในสภาวะปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายที่จะต้องมีการปกปิด 

แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือเมื่อผลตรวจทางการแพทย์ยังไม่สามารถได้ข้อยุติ สังคมจึงควรต้องให้ความเคารพต่อการไม่ละเมิดสิทธิผู้ป่วย และการนำเสนอข่าวที่อาจเกิดจากการส่งต่อข้อมูลเบื้องต้นทางสังคมออนไลน์ ก็ควรรอให้ได้ทราบความชัดเจนก่อน ซึ่งการติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อนั้น ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ ทร.จะปกปิดข้อมูล 

ในเบื้องต้นต่อกรณีที่ผลตรวจครั้งที่ 1 และ 2 มีความขัดแย้ง และยังต้องรอผลตรวจยืนยันในครั้งที่ 3 กำลังพลที่เป็นผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดของพลทหารสุรเดช ในช่วงที่ตกเป็นข่าว จึงพร้อมใจกันให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่กองทัพเรือมีไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเดินทางไปสังเกตอาการ ณ อาคารรับรอง สัตหีบไว้ก่อน นับเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และความมีระเบียบวินัยของนักรบชาวเรือ ที่น่าจดจำและเป็นเยี่ยงอย่าง และจากนี้ก็จะเตรียมตัวเดินทางกลับเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง