ไม่พบผลการค้นหา
มติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึง 30 ก.ย. 2563 เหตุยังมีความเสี่ยงโควิด-19 ทั่วโลกยังมีการแพร่ระบาดสูง ล่าสุดไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทย กลับจากสิงคโปร์

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมมีรายงานสถานการณ์ประจำวัน ผู้ป่วยใหม่ 1 คน อยู่ใน State Quarantine ทำให้มีผู้ป่วย สะสม 3,390 คน หายป่วยกลับบ้าน 3,219 คน เหลือรักษาในโรงพยาบาล 113 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม  

สำหรับผู้ป่วยใหม่ เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบริษัท กลับจากสิงคโปร์ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา และเข้ารับการเฝ้าระวังในสถานที่ที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี และยืนยันพบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 จึงนำตัวเข้ารับการรักษา 

ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ประเทศอินเดีย มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ บราซิล และสหรัฐอเมริกา ขณะที่องค์การอนามัยโลกพบว่า ผู้คนช่วงอายุ 20 - 40 ปี กำลังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิ -19 กระจายมากขึ้น จนต้องกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่าวัยเรียนวัยทำงาน ที่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เสมอ มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้าง 

ส่วนความคืบหน้าเรื่องวัคซีนของไทย มี 4 ระยะ โดยทางคณะวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังอยู่ในระยะก่อนทดสอบในมนุษย์ ส่วน จีน สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ เข้าสู่ระยะที่ 3 เริ่มมีการทดสอบในคนแล้ว 

ขณะเดียวกัน แม้ว่าในประเทศจะไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่สถานการณ์ภายนอกประเทศจะยังมีการแพร่ระบาดสูง ดังนั้นในประเทศที่เริ่มผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆ ทั้ง การเปิดเรียน การเดินทาง กีฬาและคอนเสิร์ต เต็มรูปแบบ ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ จึงจำเป็นต้องขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย. 2563 พร้อมยืนยันไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.ระยอง พิจารณาในสัปดาห์หน้า