ไม่พบผลการค้นหา
ฉินกัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เข้าพบกับ มินอ่องหล่ายน์ เผด็จการเมียนมา ณ กรุงเนปิดอว์ โดยฉินกังกล่าวยกย่อง "มิตรภาพ" ระหว่างทั้งสองประเทศ และให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ ในขณะที่ความรุนแรงในเมียนมายังคงเกิดขึ้นเท่าทวีคูณ นับตั้งแต่ 2 ปีหลังการรัฐประหารของกองทัพ

ฉินได้เข้าพบกับมินอ่องหล่ายน์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 เม.ย.) ส่งผลให้การพบปะกันในครั้งนี้ เป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ที่ได้เข้าพบผู้นำการรัฐประหารของเมียนมาครั้งแรก นับตั้งแต่มินอ่องหล่ายน์เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2564

ปัจจุบันนี้ จีนเป็นพันธมิตรรายใหญ่และเป็นผู้จัดหาอาวุธให้กับกองทัพเมียนมา ซึ่งถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมระหว่างประเทศ และจีนยังคงปฏิเสธที่จะประณามการทำรัฐประหารของมินอ่องหล่ายน์ ในขณะที่กองทัพเมียนมายังคงเดินหน้าการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง และกองกำลังต่อต้านการรัฐประหาร จนมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3,000 ราย

สถานีโทรทัศน์ CGTN ของจีนรายงานว่า ฉินกล่าวกับมินอ่องหล่ายน์ว่า ทางการจีนให้ความสำคัญต่อ “มิตรภาพ” กับเมียนมา และกล่าวว่าทั้งสองคนเห็นพ้องที่จะ “ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสองประเทศต่อไป”

“จีนสนับสนุนว่าประชาคมระหว่างประเทศควรเคารพอำนาจอธิปไตยของเมียนมา และมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการช่วยให้เมียนมาบรรลุสันติภาพและการปรองดอง” ฉินกล่าว ตามถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีน ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ของจีนกับเมียนมายังคงเป็นไปได้ด้วยดี นับตั้งแต่เกิดการทำรัฐประหารขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน

MRTV สื่อของรัฐเมียนมารายงานอ้างคำพูดของฉินว่า การเยือนของเขา “ไม่เพียงบ่งบอกถึงมิตรภาพของทั้งสองประเทศ แต่ยังแสดงถึงจุดยืนของจีนต่อเมียนมาในเวทีโลกด้วย” พร้อมรายงานว่า มินอ่องหล่ายน์ตอบกลับฉินว่า ตัวเองชื่นชม “จุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรมของจีน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา และยินดีที่จีนมีบทบาทมากขึ้น”

กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเยือนเมียนมาของฉินจะเป็นการติดตามผลการเยือนของ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในเดือน ม.ค. 2563 เพื่อกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และ “สนับสนุนความพยายามของเมียนมา ในการรักษาเสถียรภาพ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปรับปรุงชีวิตผู้คน และตระหนักถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน”

ในการเดินทางเยือนกรุงเนปิดอว์ในครั้งนี้ ฉินยังเข้าพบปะกับ ตานฉ่วย อดีตนายพลวัย 90 ปีที่ปกครองเมียนมามาเกือบ 2 ทศวรรษ จนกระทั่งเขาก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2554 ปูทางไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่การปกครองของพลเรือน ที่จบลงด้วยการรัฐประหารของมินอ่องหล่ายน์ โดยระหว่างการหารือ ฉินกล่าวยกย่องตานฉ่วยใน "การมีส่วนร่วมที่สำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เมียนมา" ขณะที่อดีตนายพลกล่าวขอบคุณจีนสำหรับ "ความช่วยเหลือที่แข็งแกร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา"

การเยือนเมียนมาของฉิน มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่เขาได้พบกับ โนลีน เฮย์เซอร์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเมียนมาในกรุงปักกิ่ง โดยฉินระบุกับเฮย์เซอร์ว่าประชาคมระหว่างประเทศควรเคารพอำนาจอธิปไตยของเมียนมา และสนับสนุนทุกฝ่ายในเมียนมาภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อลดความแตกต่าง และเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองผ่านการเจรจา

ฉินยังกล่าวอีกว่าปัญหาของเมียนจมามีความซับซ้อน และไม่สามารถมีวิธี “การแก้ไขอย่างรวดเร็ว” ทั้งนี้ เฮย์เซอร์เรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างฝ่ายตรงข้ามในเมียนมา และกล่าวว่าควรมีการเคารพเจตจำนงของประชาชนในประเทศ เธอยังกล่าวเสริมว่า สหประชาชาติชื่นชม “บทบาทสำคัญของจีนในการส่งเสริมการยุติปัญหาเมียนมา” และเรียกร้องให้จีน “มีส่วนร่วมเชิงบวก” ต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของประเทศ


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/5/3/chinas-foreign-minister-touts-friendship-on-myanmar-visit?fbclid=IwAR1ER6HDANnPwYbmGu4aFfY_eK3Du_vMgHf2IrDdYsJzW4ZISxLcjn2TUy0