วันที่ 20 มี.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการป้องกันวัตถุกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" ที่มีถูกหลอม ที่จังหวัดปราจีนบุรี ว่า ก็ให้กระทรวงอุตสาหกรรมติดตาม ก็ไปดูว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ตรงไหนแล้ว ตั้งนานก็เห็นในข่าว ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานแต่ละกระทรวงเขารับผิดชอบอยู่แล้ว ก็ต้องไปตามกันตรงโน้น ให้นายกรัฐมนตรีไปตามเองคงไม่ใช่มั้ง ก็ไปติดตามสิตรงไหนอะไรยังไง ทั้งเรื่องเรือรั่ว น้ำมันรั่ว อะไรต่างๆ ก็ดูทุกวันอยู่ รวมถึงเรื่อง PM 2.5 ก็รับรายงานทั้งวัน ก็แก้ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด จะเป็นรักษาการ หรือไม่รักษาการก็ทำงานไปจะยากอะไรเล่า งานมีเยอะแยะ
ในช่วงท้ายสื่อมวลชนได้บอกกับนายกรัฐมนตรีว่า ยังอยู่กับสื่ออีกนานเบาๆหน่อย นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “สื่อก็เบาๆหน่อยสิ”
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ว่า ขณะนี้หากจะเรียกตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเรียกนายกรัฐมนตรี เหมือนเดิม จะไม่ใช้คำว่ารักษาการ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้เหตุผลมาว่า หากใช้คำว่ารักษาการจะเกิดความสับสนในภายหลัง รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ยังคงเรียกตามตำแหน่งเดิมอยู่ รักษาการจะมีอย่างเดียวคือ คณะรัฐมนตรีรักษาการ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ระบุให้คณะรัฐมนตรีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
อีกทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังเคยแจ้งมาว่า การจะยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริงๆ ก่อน คือ โดยให้ยื่นทรัพย์สินภายใน 60 วัน หลังคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ เพื่อป้องกันความสับสนหากมีทรัพย์สินเพิ่มเติมในระหว่างนี้