วันที่ 4 เม.ย. ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ ม.152 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงเรื่องราคายางพารา ว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีการเกษตรเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจนแล้ว และขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวสวนยางด้วยว่าราคายางพารา ดีที่สุดในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาและขอแสดงความเห็นใจกับฝ่ายค้านต้องลำบากหาเหตุผลว่าทำไมราคาอย่างถึงดีและไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล ซึ่งจริงๆแล้วก็ทราบกันดีว่าตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาราคายางพาราก็ขึ้น มาอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่งการอธิบายเรื่องราคายางได้อธิบายไปดีแล้วแต่ก็ยังวกไปวนเวียนมา กลับมาอีกตลอดเวลาเพราะวิธีคิดและวิธีการบริหารงานของทั้งสองฝ่ายเราไม่เหมือนกัน แต่ว่าเอาผลงานเป็นหลักซึ่งบริหารงานของรัฐบาลแบบแอคทีฟเข้าใจถึงปัญหาลงรายละเอียดทุกเม็ดก็เป็นส่วนทำให้ราคายางพาราโลกขึ้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อวานตนได้ชี้แจง ประเทศไทยควบคุมซัพพลายอยู่ประมาณ 30% ของยางทั่วโลกเราคือมหาอำนาจของยางพาราโลก เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียที่เป็นประเทศมหาอำนาจทางด้านน้ำมัน เราต้องมั่นใจว่าเรามีเนื้อที่ใหญ่ ในเรื่องของยางพาราผู้นำต้องมีความกล้าที่จะต้องผลักดันเรื่องนโยบายต่างๆให้ราคายางพาราสูง โดยทำงานเพื่อประชาชนให้อยู่ดีกินดี 

เรื่องการปราบยางเถื่อน ไม่ใช่แค่สั่งอย่างเดียว ต้องลงไปดูรายละเอียดกระชับพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ จะเป็นการลดยางเถื่อนลดซัพพลายลงไป เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ 101 ถ้าลดซัพพลายส์ ดีมานด์ก็เพิ่มขึ้น ราคาก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา 

“หลายคนก็รู้ แต่ถ้าทำจริงจังก็ทำได้ แต่อดีตไม่มีใครทำกันเลย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์รัฐบาลที่แล้ว ก็เป็นคนใต้ เป็นคนที่มีกินมีใช้มาจากยางพารา แต่ก็ไม่ได้ดูแลอะไรเกินกว่าที่ตัวเองควรจะทำ  แต่รัฐบาลชุดนี้มีใจและทำงานอย่างแท้จริงเพื่อพี่น้องประชาชน และเราจะพยายามทำต่อไป ที่จะรักษาราคายางให้สูง ต่อไปผมเชื่อว่าเรื่องนี้เรามั่นใจว่าเราทำได้แต่ราคาของผู้อภิปรายในเรื่องนี้ในสายตาประชาชนจะเป็นอย่างไรผมรับผิดชอบไม่ได้แต่เรื่องราคายางผมรับผิดชอบ“

นายกฯ ชี้แจงถึงเรื่องปัญหาภาคใต้ที่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายไปพอสมควร อยากจะเรียนว่าภาคใต้ไม่ใช่มีแค่ยางพาราอย่างเดียว มี โอกาสอื่นอีกมากมาย และเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสนใจ แต่ก็ยังวนเวียนมาก็ยังเป็นฝ่ายค้านที่ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน ก่อนอื่นตนฟังไม่ผิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ท่านได้กล่าวไว้ว่าพรรคเพื่อไทยพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกจังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ท่านพูดชัดเจน 

“ผมก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ผมเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ การที่ผมลงไปพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลายหนถือเป็นเครื่องประจักษ์ที่ดีอยู่แล้วผมว่ามุกด้อยค่าพรรคที่คนละพรรคกับท่าน เป็นมุกเดิมๆ จริงๆ ลองใช้มุกใหม่ดูบ้างเหอะ ทุกวันนี้ สส.พรรคเองก็ไหลไปอยู่พรรคอื่น คะแนนเสียงพรรคตัวเอง ก็น้อยลงไปทุกวัน ลองอะไรใหม่ๆ บ้างดีกว่า ไม่อย่างนั้น เดี๋ยววันหลัง ก็จะไม่เหลืออะไรพื้นที่ในสภาเลย น่าเสียดายเป็นพรรคที่มีอุดมการมาโดยตลอดก็เป็นห่วง ขอให้มันท้าทายหน่อยไม่ใช่เอามุกเดิมๆมาพูดกันตลอดเวลา ผมยืนยันว่า ผมเป็นนายกของคนไทยทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับผมเชื่อว่าการกระทำของผม เป็นเครื่องประจักษ์ที่ดีอยู่แล้ว ไม่เคยเลือกปฏิบัติ แต่เกรงว่าท่านจะเลือกอธิบายหรือไม่ อันนั้นเป็นสิทธิ์ของท่านแล้วกัน”  

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า แต่ที่จำไม่ผิด ตนได้ยินท่านชวนอภิปรายถึงความมั่นคง แบบนี้มาตลอด 20 ปีตั้งแต่อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร แล้ว เพราะเราพูดถึงปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงความมั่นคงตลอดเวลา ตนก็อยากจะเปลี่ยนมุมมองใหม่บ้าง ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แน่นอนว่าความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เราพยายามมาแล้วหลายปี มันก็ยังไม่เวิร์ค ก็ลองเอาเรื่องของโอกาสมาเสริมบ้าง หากเกิดความมั่งคั่ง มันอาจจะเกิดความมั่นคงตามมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ วัฒนธรรมหลายอย่าง เชื่อว่าการลงไป 3 จังหวัดภาคใต้ค้างคืน 2คืน3 วันและสื่อมวลชนหลายท่านก็ได้ติดตามไปด้วยแล้ว และก็ยังมีการทำการค้าขายเชิงพาณิชย์ยังไงให้ต่อเนื่อง และก็จะลงไปอีกลงไปดูแล ซึ่งพูดกันไปก็ยาวเปล่าๆ เสียเวลา ซึ่งไม่เป็นไรมุมมองเราต่างกัน ตนมุ่งไปทางการพัฒนามุ่งไปทางความมั่งคั่งและก็ไม่เคยละเลยถึงเรื่องความมั่นคงด้วย  

ทั้งนี้สส. ฝ่ายค้านเองมองการแก้ไขภาคใต้ ย้อนว่าต้องกลับไปแก้ไขอดีตแต่ละรัฐบาลนี้เราเข้าใจอดีต แต่เรามองไปในอนาคต วิธีมองก็ต่างกันอีกเหมือนกัน แต่เข้าใจว่ามาจากความหวังดีแต่วันนี้เป็นรัฐบาลก็ขอลองวิธีการใหม่ๆ บ้าง ขอให้เปิดใจให้กว้าง แนวทางการพัฒนาคือทำให้ทุกคนเจริญไปด้วยกันกับโอกาส ส่วนเรื่องคนที่ผิดก็ต้องเดินหน้าตามกระบวนการไม่ได้หยุด ตนมั่นใจว่าภายใน 4 ปีนี้ ประเทศเราจะเจริญมากกว่าที่รัฐบาลอื่นๆ เคยทำมา  

“ผมขอให้ความเชื่อมั่นต่อพี่น้องประชาชน ว่า นายกฯคนนี้จะไปทุกพื้นที่จะมองเห็นทุกภูมิภาค และจะทำงานทุกวัน เพื่อคนไทยทุกคน ประชาชนเลือกนักการเมืองได้ แต่นักการเมืองเลือกประชาชนไม่ได้ ทุกภารกิจของตนจะพิสูจน์คำพูดในวันนี้ เพื่อประชาชนทุกคน”