ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยงานควบคุมไซเบอร์สเปซของจีนระบุว่า ทางหน่วยงานได้ออกร่างกฎเพื่อดูแลการจัดการความปลอดภัยของเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในประเทศ หลังจากมีความกังวลในที่สาธารณะเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ที่มากเกินไป

หน่วยงานบริหารไซเบอร์สเปซ (CAC) ของจีนระบุเมื่อวันอังคาร (8 ส.ค.) ว่า เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าสามารถใช้เพื่อประมวลผลข้อมูลใบหน้า ได้เฉพาะเมื่อมีวัตถุประสงค์เฉพาะ และมีความจำเป็นเพียงพอเท่านั้น รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด

CAC ระบุในแถลงการณว่า การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจะต้องได้รับความยินยอมจากแต่ละบุคคล ทั้งนี้ แถลงการณ์ยังระบุเสริมว่า หน่วยงานใดๆ ควรใช้วิธีการต่างๆ ในการระบุตัวตนแบบที่ไม่ใช่ไบโอเมตริกมากกว่าการใช้วิธีการจดจำใบหน้า ในกรณีที่วิธีการดังกล่าวมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน

การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกโดยเฉพาะการจดจำใบหน้าเริ่มแพร่หลายในประเทศจีน ทั้งนี้ ในปี 2563 สื่อท้องถิ่นของจีนรายงานว่า มีสถานที่ที่ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า เพื่อเปิดใช้งานเครื่องจ่ายกระดาษชำระในห้องน้ำสาธารณะ โดยกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลต่อสาธารณชนและการบังคับใช้กฎระเบียบในขณะนั้น

หนังสือพิมพ์ The South China Morning Post รายงานว่า ศาลและรัฐบาลท้องถิ่นของจีนหลายแห่ง ได้ตัดสินและสั่งปรับบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามากเกินไป

ร่างกฎของ CAC ระบุว่า หน่วยงานหรือสถานที่ต่างๆ ไม่ควรติดตั้งอุปกรณ์จับภาพและอุปกรณ์ระบุตัวตนในห้องพักของโรงแรม ห้องน้ำสาธารณะ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องสุขา และสถานที่อื่นๆ ที่อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นได้ ทั้งนี้ อุปกรณ์จับภาพควรติดตั้งในที่สาธารณะเพื่อความปลอดภัยสาธารณะเท่านั้น และให้มีการติดป้ายเตือนชัดเจนอยู่ข้างๆ

ร่างกฎดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลจีน ในการออกมาตรการที่เข้มงวดกับการควบคุมข้อมูล ผ่านการออกกฎระเบียบต่างๆ ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่จีนได้ออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในปี 2564 เพื่อควบคุมการใช้ข้อมูลผู้ใช้มากเกินไปของบริษัทต่างๆ นับเป็นกฎหมายฉบับแรก ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในจีน


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/economy/2023/8/8/china-drafts-rules-for-facial-recognition-tech-amid-privacy-complaints?fbclid=IwAR0hE36MvSDpUY5DFNvt10gbQkyryNzjl70FvqQkPqReSuB2zIdXk0pciAE