การเติบโตของประชาธิปไตย ในจังหวัดที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 10 อย่างจังหวัดลำพูน โดยในวันนี้ นำเสนอเป็นตอนที่สอง ว่าด้วยความสำคัญของประชาธิปไตย ที่ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่การเลือกตั้งและพรรคการเมือง แต่ยังหมายถึงชีวิตและปากท้องของประชาชน
คนจำนวนหนึ่งในสังคมนี้ มักจะนึกถึงประชาธิปไตย เพียงในแง่ของการไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง เลือกผู้แทนฯเข้าสภา หรือในองค์กรต่างๆที่มีการเลือกตั้ง คนบางส่วนในสังคม มองเลวร้ายลงไปถึงขั้นว่า เป็นการไปหย่อนบัตรให้นักกินเมือง เข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ในตำแหน่ง
ตัดภาพมาที่ลำพูน จังหวัดที่มีความตื่นตัวของประชาชน ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสูงสุด พวกเขาคิดอย่างไรกับความคิดเช่นนี้? สำหรับพวกเขา แน่นอนว่าประชาธิปไตยโดยตัวมันเอง คือนามธรรมที่ไม่อาจจับต้องได้ จะให้อธิบายเป็นภาษาชาวบ้าน ก็ยังยากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
แต่ในห้วงสำนึกลึกๆ ของพวกเขาแล้ว "ประชาธิปไตย" คือเครื่องมืออะไรสักอย่าง ที่จะนำไปสู่รูปธรรม ชีวิต ปากท้อง การกินอยู่หลับนอนของพวกเขาได้// เมื่อนักการเมือง แข่งขันกันลงมานำเสนอนโยบายให้แก่ประชาชน พอประชาชนเลือกเขา เขาก็ต้องทำให้ประชาชน ไม่เช่นนั้น ก็อย่าหวังว่าจะมีครั้งต่อไปอีก
หากมองในแง่นโยบายของรัฐ ก็จริงอยู่ว่าระบบเผด็จการ ก็อาจจะให้อะไรประชาชนแบบนี้ได้เหมือนกัน แต่ทว่าประเด็นที่สำคัญกว่า คือประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้คนได้เลือกด้วยตัวเอง ในแบบที่พวกเขาต้องการ
และนี่คือที่มา ของคำว่า "ประชาธิปไตยกินได้" ที่ไม่ใช่เพียงแค่การมีให้กินเท่านั้น เพราะมันคือการได้เลือก ว่าวันพรุ่งนี้ หรือในอนาคต พวกเขาจะกินอะไร จะกินแบบไหน และจะมีอะไรให้ทำ เพื่อให้มีกิน
ประชาธิปไตย จึงไม่ได้หมายถึงเพียงการเลือกตั้ง ผู้แทน สภา และการเมืองที่แสนวุ่นวายปวดหัว ซึ่งเป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม มันหมายถึงชีวิต ที่สามารถเลือกได้เองของชาวบ้าน ที่ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้ว การจะอธิบายมันออกมาเป็นทฤษฎีทางรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ อาจจะยังเป็นเรื่องยากอยู่// แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไปนัก ที่จะเข้าใจได้ว่า "ประชาธิปไตย ใช้สำหรับรับประทานได้อย่างไร