รายงานพิเศษ 'ลำพูน..นคราประชาธิปไตย' ตอนที่ 1 'ประชาธิปไตยไม่ได้หล่นมาจากฟ้า'
การเติบโตของประชาธิปไตย ในจังหวัดที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 10 อย่างจังหวัดลำพูน ความตื่นตัวทางการเมืองนี้ มีที่ไปที่มาอย่างไร และท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีผู้พยายามปฏิเสธระบบการเลือกตั้ง พวกเขาคิดอย่างไร
ลำพูน...จังหวัดเล็กๆแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เกือบสุดชายขอบประเทศไทย แม้จะไม่ได้เป็นศูนย์กลางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาแต่กาลนาน แต่ก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ขึ้นชื่อ ว่ามีความตื่นตัวด้านประชาธิปไตยมากที่สุด และในปีนี้ ยังคงครองแชมป์จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดอยู่ เป็นสมัยที่ 10 แล้ว
แม้จะมีความเข้าใจในแบบบ้านๆ ไม่มีความสลับซับซ้อนอะไรนัก แต่ชาวลำพูน กลับสามารถมองเห็นความสำคัญ ของการมีประชาธิปไตยและการเลือกตั้งได้เป็นอย่างดี พร้อมตั้งข้อสงสัย และความกังวล ว่าทำไมคนส่วนหนึ่งในประเทศนี้ จึงอยากจะล้มประชาธิปไตยนัก?
ไม่เว้นแม้แต่พี่น้องชนเผ่าในชนบทอันห่างไกลจากตัวเมืองลำพูน ความตื่นตัวทางการเมืองจากโอกาสการได้รับข้อมูลข่าวสารที่เปิดกว้างขึ้น ทำให้พวกเขามีความคิด ความเข้าใจ ที่เมื่อได้ฟังแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความลุ่มลึกอย่างคาดไม่ถึง
หากย้อนไปดูครั้งแรกที่จังหวัดลำพูน ได้แชมป์ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงสุด คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2544 หรือก็คือครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2540 นั่นเอง ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็คือการที่นโยบายทางเศรษฐกิจและการเมือง ไม่ผูกพันอยู่กับสถาบันจากส่วนกลางอีกต่อไปแล้ว หากแต่อยู่ที่พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกจากประชาชน จากสิ่งที่ประชาชนต้องการ
เหมือนกับเป็นบันไดสองขั้น ไปสู่สำนึกประชาธิปไตย ในวันนั้น พวกเขาอาจจะยังไม่เข้าใจดีพอ ว่าประชาธิปไตยคืออะไร พวกเขารู้เพียงแค่ว่าต่อจากนี้ไป การเลือกตั้ง จะไม่ใช่แค่การไปลงคะแนนให้ผู้สมัครอีกแล้ว หากแต่คือการไปใช้สิทธิเลือก ในสิ่งที่พวกเขาต้องการด้วยตนเอง
จนกระทั่งการรัฐประหารปี 2549 มาถึง การสูญเสียสิทธินี้ไป และต้องถูกยัดเยียดอะไรบางอย่างมาให้แทนที่โดยไม่ได้เลือก จึงทำให้พวกเขา เริ่มเข้าใจถึงความหมายของคำว่า "ประชาธิปไตย" มากขึ้น เมื่อพวกเขา ต้องสูญเสียมันไป
ในวันที่ชนชั้นนำในเมือง เลือกที่จะปฏิเสธการมีสิทธิมีเสียงของตนเองและของผู้อื่น ชาวบ้านห่างไกลศูนย์กลาง ที่ริมชายขอบเหล่านี้ กลับเลือกที่จะให้ประชาธิปไตย มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทำให้เห็นได้ว่า บางที ประชาธิปไตย อาจจะไม่ได้มาจากสวรรค์เบื้องบนสูงส่ง หรือความรู้สูงศักดิ์ที่ไหน เพราะบางที มันก็เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ เติบโต และหยั่งรากลง อยู่ในมือของพวกเราชาวดินนี่เอง