แม่ของน้องเกด ต้องพลิกชีวิตจากแม่ค้าขายข้าวแกง มาทวงคืนความเป็นธรรมให้กับลูกสาว เพราะคำว่า “ผู้ก่อการร้าย โจรยิง พยาบาลเถื่อน”ผลักดันให้เธอลุกขึ้นสู้เพื่อลูก
เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ทำให้ครอบครัว “อัคฮาด”สูญเสีย บุตรสาวคนโต นางสาวกมนเกด อัคฮาด อาสาสมัครพยาบาล จากการถูกซุ่มยิงภายในวัดปทุมวนาราม 8 เดือนที่ผ่านมา คุณพะเยาว์ อัคฮาด คุณแม่ของน้องเกด ต้องพลิกชีวิตจากแม่ค้าขายข้าวแกง มาทวงคืนความเป็นธรรมให้กับลูกสาว เพราะคำว่า “ผู้ก่อการร้าย โจรยิง เป็นพยาบาลเถื่อน”เป็นแรงผลักดันให้เธอลุกขึ้นสู้
เธอเดินทางไปร้องเรียนต่อกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี แม้ตลอด 7-8 เดือนจะเผชิญกับการข่มขู่คุกคาม เช่นการถูกติดตามจากกลุ่มชายฉกรรจ์ แต่คุณพะเยาว์ยืนยันว่า ครอบครัวของเธอก้าวข้ามความกลัวไปแล้ว ที่ลุกขึ้นสู้ทุกวันนี้ เพราะอยากได้ความยุติธรรม นำคนผิดมาลงโทษ
ความฝันของกมนเกด คือ การสอบเข้าเป็นผู้ช่วยพยาบาลในสังกัดกองทัพบก ถ้าสามารถสอบเข้าได้จะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความฝันของกมนเกดปิดฉากลงในวันที่เธอจบชีวิตจากกระสุนปืนปริศนา 11นัด สำนวนคดีของกมนเกด ยังอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
คุณนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐดูแลการเสียชีวิต 6 ศพ ภายในวัดปทุมวนารามเป็นพิเศษ เพราะเกิดขึ้นหลังปฏิบัติการกระชับพื้นที่ แต่ขณะนี้สำนวนการชันสูตรศพยังไม่สมบูรณ์
สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยเข้ามารับผิดชอบคดีของกลุ่ม นปช. จากการร้องเรียนของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. สมาคมทนายความ รับผิดชอบเรื่องการยื่นประกันตัว 7 แกนนำ นปช. โดยการยื่นประกันเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2554 ได้นำหลักฐานใหม่ คือ ความเห็นของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะผอ.ศอฉ. ความเห็นของ อ.คณิต ณ.นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ และความเห็นของกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ที่ไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวแกนนำ แต่ศาลยังยืนตามคำสั่งเดิมคือไม่ให้ประกัน ดังนั้นสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลในวันที่ 17 มกราคม
Produced by VoiceTV