ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย H ห้ามซื้อขายหุ้นชั่วคราว บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หลังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนเกี่ยวกับการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงิน 6,000 ล้านบาท ขณะที่นักวิเคราะห์ คาดแจสโมบาย อาจล้มเลิกการจ่ายใบอนุญาติ 4G
วันนี้(7 มี.ค.) บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JASแจ้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 1,426 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 20 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด วงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นของบริษัทเป็นการทั่วไป ในราคาหุ้นละ 5 บาท และจะซื้อหุ้นคืนภายหลังการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี แต่ยังไม่กำหนดวันประชุมและเงื่อนไขในการรับซื้อ
กรณีนี้ ส่งผลให้หุ้น JAS พักเที่ยงปรับขึ้น 38 สตางค์ หรือร้อยละ 12.26 อยู่ที่ 3.48 บาท ระหว่างวันราคาสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน ที่ 3.50 บาท และต่ำสุดที่ 3.12 บาท
จัสมิน ระบุ สาเหตุการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น รวมทั้งส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนว่า ยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง
ระหว่างการซื้อขายช่วงตลาดเปิดทำการภาคบ่าย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ขึ้นเครื่องหมาย H ห้ามซื้อขายชั่วคราวหุ้น JAS และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่มีจัสมินเป็นหลักทรัพย์อ้างอิง เพื่อรอการชี้แจงที่ชัดเจน กระทั่ง เวลา 16.05 น. ได้ปลดเครื่องหมาย H หลังจัสมินส่งเอกสารชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านนายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับการซื้อหุ้นคืน ทำให้นักลงทุนเกิดความสงสัย เพราะส่วนใหญ่บริษัทที่ซื้อหุ้นคืน ต้องอยู่ในภาวะปกติและมีกระแสเงินสดจำนวนมาก แต่ปัจจุบัน จัสมินมีภาระการจ่ายค่าประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์
จึงประเมินว่า JAS อาจไม่ชำระค่าใบอนุญาต โดยล้มเลิกความคิดจะให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และหันกลับไปเน้นธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ เพื่อไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจากค่าใบอนุญาต และการลงทุนทำธุรกิจใหม่ มูลค่ามากกว่า 70,000 ล้านบาท
นายโสรัชย์ อัศวะประภาร กรรมการบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนยัน ผู้บริหาร JAS จะรักษาคำพูดว่าจะไม่เพิ่มทุนจดทะเบียน และเชื่อว่าการจ่ายค่าใบอนุญาตจะไม่กระทบธุรกิจอื่นๆ ของ JAS
ก่อนหน้านี้ นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ ระบุ JAS ได้ยื่นขอสินเชื่อจากธนาคาร วงเงิน 40,000ล้านบาท แต่ภายหลังชนะการประมูล ได้มายื่นขอกู้เพิ่มเท่ากับวงเงินที่ชนะการประมูล ซึ่งธนาคารให้บริษัทไปจัดทำแผนธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดคล้องวงเงินสินเชื่อ แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการแผนงานดังกล่าว จึงยังไม่มีการอนุมัติสินเชื่อ
สำหรับคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ชนะการประมูลที่ราคา 75,654 ล้านบาท และต้องนำเงินค่าประมูล งวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน หรือ แบงก์การันตี เท่ากับจำนวนเงินประมูลที่เหลืออยู่ทั้งหมด ให้แก่ กสทช. ก่อนวันที่ 21 มีนาคมนี้
ล่าสุด ทรูมูฟ จะชำระเงินประมูลงวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม และหนังสือค้ำประกัน หรือแบงก์การันตี จากสถาบันการเงินเท่ากับราคาที่ชนะการประมูล 76,298 ล้านบาท วันที่ 11 มีนาคมนี้