“อ.พิชญ์” มองเกม “พรรคใหม่” ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ คาดชู “พิธา” เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อประสานแรงขับเคลื่อน “ธนาธร-อ.ปิยบุตร” ผ่านคณะอนาคคตใหม่ ที่ถูกผลักให้ “พอกันที” แม้แต่ขุดคุ้ยในงานข่าวของ “ช่อ-พรรณิการ” จะเป็นพลังดาวกระจายที่น่ากลัว สำหรับรัฐบาล เชื่อ “ธนาธร” ไม่คิดลี้ภัย แต่จะเดินหน้าสู้ ..ลุงตู่มีหนาวววววว!!
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวขณะบรรยายพิเศษในหัวข้อ เมื่อพรรคอนาคตใหม่เป็นอดีต : อะไรจะเกิดขึ้นกับฝ่ายค้านต่อไป จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ตอนหนึ่งระบุว่า การตัดสินของศาล บังคับให้พวกเราต้องวิวัฒนาการ พรรคอนาคตใหม่กลายเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับคนที่คิดว่า พอกันที และสำหรับคนที่รู้ว่า หากปราศจากการแทรกแซงของพลังอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นในรูปของกองทัพ หรืออะไรก็ตามประเทศไทยคงจะดีกว่านี้
สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการต่อสู้กับเผด็จการ เพราะพวกเขารู้ดีว่า อนาคตของลูกหลานนั้น จะถูกกำหนดจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตอนนี้แม้พรรคจะถูกยุบ ทำให้ตัวขับเคลื่อนนั้นพังทลาย แต่ผู้คนจะยังคงเดินหน้าต่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่มีร่วมกัน ขอประกาศว่าจะ ไม่ยอมแพ้ พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว แต่ประชาชนจะเดินทางต่อไปเพื่อให้ถึงจุด มุ่งหมายเราอยู่ที่นี่และเราจะไม่ยอมแพ้ มันเร็วไปที่จะร้องไห้ หรือยอมแพ้ หลายพรรคการเมืองถูกยุบก่อนที่เราจะโดน พวกเขาคิดว่า การยุบพรรค คือ การทำลายฝ่ายตรงข้ามแต่เราจะพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิด และช่วงเวลานี่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปมันไม่ใช่ตอนจบแบบที่พวกเขาต้องการ แต่เป็นเพียงการจบบทแรก และตอนนี้บทที่สอง กำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
“ตอนนี้ผมไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง และไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนอะไรได้ แต่นั้นก็หมายความว่า ผมก็ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด
ผมสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น เพราะคิดแบบนี้ ผมจึงประกาศตั้ง คณะอนาคตใหม่ โดยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มีความยืดหยุ่นสูง ไม่กำหนดตายตัว ไม่ได้เป็นนิติบุคคล เราเริ่มจาก 6,300 จากอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่จากทุกเพศทุกวัย ที่ต้องการต่อต้านเผด็จการและสนับสนุนความเท่าเทียมและความเป็นประชาธิปไตยในสังคม” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวถึง 3 พันธกิจของ คณะอนาคตใหม่ ประกอบด้วย 1. สู้ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น 2. เชื่อว่า ความคิดแข็งแกร่งกว่าปืน บัตรเลือกตั้งแข็งแกร่งกว่ากระสุน จะรณรงค์อย่างหนักหน่วง เพื่อสนับสนุนแนวคิดเสรีนิยม และแนวคิดแบบประชาธิปไตย เราจะรณรงค์เพื่อสนับสนุน สังคมที่รักสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้ง รูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ นี่คือการต่อสู้ทางความคิด เชื่อว่า หากเราชนะสมรภูมิทางคิดได้ เราจะชนะทุกสมรภูมิ เพื่อจะเขียนประวัติศาสตร์ยุคหลัง พล.อ.ประยุทธ์และ 3. สร้างเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ที่ต้องการต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตย
นายธนาธร กล่าวถึงการออกมาชุมนุมแฟลชม็อบของนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทยว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากจุดประกายทางความ คิด สร้างแรงบันดาลใจ ยอมรับว่าประหลาดใจ ที่เห็นนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหว ในอนาคตข้างหน้า เราจะนำพาทุกภาคส่วนให้ร่วมมือกัน ช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราจะต้องทำมันให้สำเร็จ และต้องไม่เสียโอกาสนี้โดยเด็ดขาด รูปแบบวิธีสามารถยืดหยุ่นได้ แต่ที่สำคัญอุดมการณ์ต้องไม่เปลี่ยนแปลง เชื่อว่าการชุมนุมของนักศึกษาจะไม่บานปลายเหมือนในฮ่องกง เพราะพวกเขารู้จักการชุมนุมอย่างสันติวิธี