อย่าเข้าใจผิดว่าอภินิหารทางกฎหมายล้มแล้ว ราชกิจจานุเบกษาล่าสุด ที่เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 41/2560 เรื่องการขยายเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร ฉบับล่าสุดที่ออกมาเมื่อวานนี้ ทำให้คนเข้าใจผิดว่าขยายอายุความเรื่องภาษีไม่ได้
โดยสาระสำคัญระบุว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องตามความจริง หรือไม่บริบูรณ์ แต่ไม่ได้ออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวน ให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกดังกล่าวเกินกว่าสองปีแต่ไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ...คณะกรรมการฯ ได้พิจารณากำหนดเวลาในการออกหมายเรียกของเาพนักงานประเมิน และการอนุมัติให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกของอธิบดี ในกรณีที่มีการยื่นรายการตามแบบไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำบทบัญญัติมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับการขยายหรือเหลื่นกำหนดเวลาต่างๆ ตามประมวลรัษฎากรซึ่งเป็นบททั่วไปมาใช้บังคับ แก่กำหนดเวลาการออกหมายเรียกและการขยายเวลาการออกหมายเรียก...
ทำให้คนตีความผิดและเข้าใจผิดกันมากว่าเกี่ยวข้องกับการยืดอายุความหุ้นชินนั้น ทำไม่ได้ ?
แต่ตามจริงแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม กล่าวคือ รองปลัดกระทรวงการคลัง นายประภาส คงเอียด เคยกล่าวไว้ว่า "กรมสรรพากรไม่สามารถขยายเวลาในการออกจดหมายหรือเรียกอดีตนายกฯ ทักษิณมาไต่สวนเพื่อประเมินภาษีได้ เนื่องจากประมวลรัษฎากร มาตรา 19 ระบุชัดว่า อธิบดีกรมสรรพากรมีอำนาจออกจดหมายเรียกตามมาตรา - อัฏฐ วรรค 2 นั้น ตามเจตนารมณ์ของมาตรานี้จะนำมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อเป็นการให้คุณแก่ผู้เสียภาษี แต่ไม่สามารถให้โทษแก่ผู้เสียภาษีได้" เรื่องนี้กล่าวไว้เมื่อ 7 มีนาคม แต่เพิ่งมาลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเผยแพร่วานนี้
ใครที่เข้าใจผิด โปรดทำความเข้าใจใหม่ 'อภินิหารทางกฎหมาย' ยังอยู่ และเสกอภินิหารนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะปลดล็อคราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้นี่เอง