ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของหลายประเทศเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนจากจีนและฮ่องกงเข้าไปลงทุนกันมากขึ้น รัฐบาลจีนจึงได้ออกมาตรการจำกัดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไม่ให้บริษัทจีนลงทุนในต่างประเทศมากเกินไป

เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการจำกัดบริษัทจีนที่จะนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด โรงแรม หรือพื้นที่อุตสาหกรรม ธุรกิจประเภทกีฬาและบันเทิง รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันและอุตสาหกรรมบริการทางเพศ เป็นการแตะเบรกไม่ให้นักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศมากจนเกินไป โดยให้เหตุผลว่า แม้จะถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่บริษัทจีนจะไปลงทุนในต่างประเทศ แต่บริษัทเหล่านี้ก็จะต้องประสบกับความเสี่ยงและความท้าทายมากมาย และจะมีหนี้มากเกินไป

ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนก็พยายามส่งเสริมให้มีการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ One Belt One Road เพื่อเชื่อมเส้นทางเศรษฐกิจภายในเอเชียและยุโรปตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างท่าเรือ ไฮเวย์ ทางรถไฟ โรงไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ 

บริษัทการเงินมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ก่อนที่จะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ จีนประกาศให้อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอยู่ในบัญชีกิจการที่มีเงื่อนไขในการลงทุน และมีการตัดลดเงินในกองทุนสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ส่งผลให้มีการถอนการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ออกไปถึงร้อยละ 84 ของทั้งหมดทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยปี 2016 บริษัทจีนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกประมาณ 10,600 ล้านดอลลาร์ และลงมาเหลือเพียง 1,700 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีนี้ และคาดว่า ในปีหน้า ตัวเลขการลงทุนก็จะต่ำเช่นนี้

การจำกัดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ สร้างความกังวลให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา นักลงทุนจีนและฮ่องกงเข้าไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ๆ เพราะการแข่งขันภายในประเทศสูงจนราคาที่ดินสูงมาก โดยผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษเป็นคนจีนถึงร้อยละ 25 ในปี 2016 ที่ผ่านมา และนักลงทุนจีนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียกว่าร้อยละ 38 นอกจากนี้ ร้อยละ 30 ของมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในย่านแมนฮัตตันของสหรัฐฯ ในปีนี้ก็เป็นคนจีน 

ด้านบริษัทจัดการการลงทุนเจแอลแอลระบุว่า แม้นักลงทุนจีนยังมาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่มากนัก แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบริษัทของจีนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มองหาโอกาสการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ของไทย ส่งผลให้ช่วงหลังมานี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยพยายามเน้นขายตลาดระดับบน โดยมุ่งเป้าขายนักลงทุนจีนกับฮ่องกง ดังนั้น จึงต้องจับตามองว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ยังมีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆ มาก จะช่วยให้บริษัทจีนตัดสินใจ ไม่ถอนการลงทุนออกไปหรือไม่