ศาสตราจารย์ ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักเศรษฐศาสตร์การเมือง มองข้ออ้างของกลุ่มต่อต้านการเลือกตั้ง ที่บอกว่าต้อง "ปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง" ว่าเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น และต่อให้ตั้งสภาปฏิรูปได้จริงก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก
แต่นักเศรษฐศาสตร์การเมืองอีกคนหนึ่ง มองเจตนาของกลุ่ม กปปส. ในแง่ร้ายกว่านั้น รองศาสตราจารย์ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ มองว่าหากยอมให้กลุ่ม กปปส. ล้มการเลือกตั้งได้ สภาปฏิรูปที่ได้มา จะทำลายระบบการเมืองแบบเลือกตั้ง แล้วเปลี่ยนระบบแต่งตั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น รองศาสตราจารย์พิชิตมองว่า หากไม่มีการเลือกตั้ง จะเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ และอาจเกิดนองเลือดได้
นักเศรษฐศาสตร์การเมืองผู้นี้ มองด้วยว่า ต่อให้ล้มการเลือกตั้ง แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการชั่วคราวโดย "คนกลาง" ขึ้นมาได้ รัฐบาลชั่วคราวนั้นก็จะประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากจะถูกต่อต้านทั้งจากคนส่วนใหญ่ในประเทศและจากนานาชาติ
ขณะนี้นานาชาติแสดงท่าทีสนับสนุนการเลือกตั้งอย่างชัดเจน และการปฏิเสธการเลือกตั้งก็ย่อมทำให้ไทยต้องถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก
โดยสรุป การปฏิเสธการเลือกตั้ง นอกจากจะเป็นการปฏิเสธประชาธิปไตยแล้ว ยังไม่ได้ช่วยหยุดความขัดแย้งทางการเมืองได้ รัฐบาลหรือสภาเผด็จการภายใต้ชื่อ "สภาประชาชน" จะถูกต่อต้านทั้งจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศและจากนานาชาติ และการต่อต้านนั้นอาจรุนแรงและนองเลือดมากกว่าครั้งอื่นใดที่ผ่านมา กล่าวสั้นๆ คือ การล้มการเลือกตั้ง คือการก่อสงครามกลางเมือง