ศัพท์ภาษาอังกฤษ Single-Use ซึ่งหมายความว่า 'ใช้ครั้งเดียวทิ้ง' ถูกยกให้เป็นคำศัพท์แห่งปี 2018 เนื่องจากคนทั่วโลกตื่นตัวการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพยายามหาทางแก้ปัญหาขยะที่ไม่ย่อยสลาย
ผู้จัดทำพจนานุกรมภาษาอังกฤษ 'คอลลินส์' ประกาศเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนว่า Single-Use หรือ การใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถูกยกให้เป็น 'คำศัพท์แห่งปี' ประจำปี 2018 เนื่องจากคำศัพท์ดังกล่าวถูกใช้ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยอ้างอิงจากการสังเกตและจำแนกคำศัพท์ที่เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ในช่วงปีที่ผ่านมา และสื่อต่าง ๆ ก็พร้อมใจกันรายงานข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับปัญหาขยะ ที่ส่งผลกระทบต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติกันมากขึ้น ซึ่งขยะที่เกิดจากสินค้า 'ใช้ครั้งเดียวทิ้ง' หรือ Single-Use ส่วนใหญ่มักจะเป็นขยะพลาสติก
เว็บไซต์เดอะการ์เดียนรายงานว่า ภาพนกทะเลที่ป้อนเศษพลาสติกให้ลูกนกกิน รวมถึงข่าวเต่าทะเลหรือวาฬตายเพราะกินขยะพลาสติกเข้าไปเป็นจำนวนมาก สร้างความสะเทือนใจและทำให้คนทั่วโลกหันมาตื่นตัวด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรณรงค์ลดการใช้ขยะที่ไม่ย่อยสลายต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทำให้การต่อต้านผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งกลายเป็นกระแสที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เดอะการ์เดียนยกตัวอย่างหลายประเทศที่พยายามผลักดันการบังคับใช้กฎหมายลดและแก้ปัญหาขยะ เช่น อังกฤษออกกฎหมายห้ามใช้หลอดพลาสติก แต่อนุโลมให้ใช้หลอดกระดาษที่ย่อยสลายได้แทน รวมถึงการเริ่มพูดถึงประเด็นการจัดเก็บภาษีพลาสติกอย่างจริงจังในรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่มีการวางแผนไว้ว่ากฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยการจัดเก็บภาษีนั้นจะสามารถนำมาใช้ได้ในช่วงปี 2022
เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังเคยระบุด้วยว่าเตรียมจะยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมในร้านของชำที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 250 คน ซึ่งปัจจุบันร้านขนาดเล็กเหล่านี้ยังแจกถุงพลาสติกฟรี และยังคงเป็นสาเหตุของการใช้ถุงพลาสติกจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างมาก เพราะมีปริมาณการใช้ถุงพลาสติกลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นปริมาณถุงพลาสติกกว่า 9 พันล้านใบ
ส่วนที่ออสเตรเลียมีการออกกฎหมายห้ามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าแจกถุงพลาสติกใส่ของให้ลูกค้า แต่ให้รณรงค์การใช้ถุงผ้าหรือตะกร้าจากวัสดุธรรมชาติแทน เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกที่ไม่ย่อยสลาย
ขณะเดียวกัน บีบีซีรายงานว่าคำศัพท์ Single-Use ถูกใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2556 ส่วนคำศัพท์ที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่พจนานุกรมคอลลินส์รวบรวมไว้ในปีนี้ก็ยังเกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการแก้ปัญหาขยะ เช่น คำว่า 'พล็อกกิง' plogging เป็นการผสมคำว่า 'pick' ที่หมายถึงเก็บ หรือ หยิบ และคำว่า jogging ที่หมายถึงการวิ่งเหยาะ ๆ เข้าด้วยกัน และมีความหมายใหม่ที่สื่อถึง 'การวิ่งเก็บขยะ' โดยเป็นคำศัพท์ซึ่งที่มาจากการจัดกิจกรรมวิ่งเก็บขยะในประเทศสวีเดน
กระแสของการ 'พล็อกกิง' นั้นเกิดขึ้นมาในช่วงต้นปี 2016 เมื่อชาวสวีเดนกลุ่มหนึ่งได้เริ่มต้นวิ่งและเก็บขยะใส่ถุงขยะขนาดใหญ่ไปด้วย เกิดการแชร์ผ่านทางโซเชียลมีเดียมากมาย และได้รับความนิยมอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวีย จนเกิดการจัดงานวิ่งเก็บขยะในลักษณะดังกล่าวขึ้นมากมาย ซึ่งนักวิ่งต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นผลที่ชื่นชอบการ 'พล็อกกิง' เพราะมันมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับพวกเขา ทำให้การวิ่งนั้นไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพียงแค่พกถุงใบเดียวไปด้วยก็สามารถทำได้แล้ว และที่สำคัญยังทำให้บ้านเมืองสะอาดขึ้นได้ทันที
เท่านั้นยังไม่พอ เทรนด์การพล็อกกิงยังโด่งดังไปถึงสหรัฐฯ จนในที่สุดองค์กร Keep America Beautiful ได้นำเอาเทรนด์ดี ๆ แบบนี้มาสร้างแคมเปญรณรงค์ร่วมกับแอปพลิเคชันดังอย่าง Lifesum แอปฯ ที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยีและจิตวิทยาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ทุกวัน ซึ่งแอปฯ นี้เป็นหนึ่งใน 40 แอปฯ ที่เปิดใช้งานกับ Apple Watch และตอนนี้มีสมาชิกแล้ว 14 ล้านคนในตลาดทั่วโลกกว่า 100 แห่ง เมื่อนักวิ่งแบบพล็อกกิงได้ใช้แอปพลิเคชันนี้ร่วมกับการวิ่งเก็บขยะของพวกเขา ข้อมูลการออกกำลังกายก็จะถูกประมวลออกมาอย่างแม่นยำ โดยการพล็อกกิง 30 นาที สามารถช่วยเผาผลายได้มากถึง 288 กิโลแคลอรี เลยทีเดียว
อีกคำหนึ่งซึ่งมีผู้ใช้กันมากขึ้น คือ vegan (วีแกน) หมายถึงกลุ่มคนที่ปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำจากสัตว์ ตั้งแต่อาหารการกินไปจนถึงหรือสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ซึ่งกลุ่มคนที่เป็นวีแกนมีความเชื่อว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นการตัดชีวิตผู้อื่น ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง เพราะอุตสาหกรรมปศุสัตว์ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ในการดำเนินการ และเป็นตัวการทำให้เกิดก๊าซทำลายชั้นบรรยากาศ
ส่วนศัพท์ภาษาอังกฤษที่คอลลินส์ยกให้เป็นคำศัพท์แห่งปีเมื่อปี 2017 คือคำว่า fake news โดยเชื่อมโยงกับกระแสการเผยแพร่ 'ข่าวปลอม' ในสื่อสังคมออนไลน์ และเมื่อปี 2016 คำว่า Brexit ถูกยกเป็นคำศัพท์แห่งปี เพราะเป็นปีที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรป ทำให้เกิดการผสมคำว่า Britain และ Exit เข้าด้วยกัน