รัฐบาลบราซิลใช้เงิน 86,000 ล้านบาท แทรกแซงราคาน้ำมันดีเซลให้ถูกลงลิตรละ 4 บาท เป็นเวลา 60 วัน หลังรถบรรทุกนัดหยุดงานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทั้งประเทศเป็นอัมพาต
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีบราซิล มิเชล ทีเมอร์ ออกมาตรการตรึงราคาน้ำมันเป็นเวลา 2 เดือน โดยรัฐบาลจะใช้เงินประมาณ 10,000 ล้านเรียล หรือราว 86,000 ล้านบาท อุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลให้ถูกลงลิตรละ 0.46 เรียล หรือประมาณ 4 บาท คิดเป็น 12 % ของราคาขายปลีก
การตัดสินใจอุ้มราคาน้ำมันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรถบรรทุกนัดหยุดงานมาเป็นเวลา 7 วัน และมีการปิดถนนหลายร้อยสายทั่วประเทศ ทำให้เกิดภาวะอาหารและเชื้อเพลิงขาดแคลนอย่างหนัก สัตว์เลี้ยงหลายล้านตัวไม่มีอาหารกิน การส่งออกผลิตผลทางการเกษตร เช่น ถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ และน้ำตาล หยุดชะงัก โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต้องหยุดการเรียนการสอน ปั๊มน้ำมันไม่มีน้ำมันขาย รถเมล์รถโดยสารหยุดให้บริการ
ทั้งนี้ 'บราซิล' มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกา การหยุดงานของรถบรรทุกส่งผลให้เศรษฐกิจเสียหายในช่วง 5 วันแรกของการสไตรค์คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,900 ล้านบาท โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ราคาน้ำมันดีเซลในบราซิลอยู่ที่ประมาณลิตรละ 29.50 บาท ก่อนหน้าการนัดหยุดงาน ราคาขยับขึ้นเป็นลิตรละ 31.60 บาท และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 พ.ค.61) ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นเป็นลิตรละ 33.40 บาท
นอกจากมาตรการอุ้มราคาน้ำมันดีเซลแล้ว รัฐบาลยังออกมาตรการตามข้อเรียกร้องของบรรดาสหภาพการขนส่งอีก 2 ข้อ คือ งดเก็บค่าผ่านทางสำหรับรถบรรทุกที่ไม่ได้บรรทุกสินค้า และกำหนดค่าบรรทุกขั้นต่ำที่คนขับจะต้องได้รับ