ขณะนี้กำลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลมีเดียในจีน ต่อคำให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในกรณีเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ส่งผลให้มีชาวจีนเสียชีวิต 46 คน โดยมีเสียงเรียกร้องให้คนจีนเลิกมาเที่ยวในประเทศไทย
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เวลานี้ในประเทศจีนเกิดกระแสความไม่พอใจต่อคำพูดของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งให้สัมภาษณ์ภายหลังเกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตจำนวน 46 คน
เทปคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประวิตรถูกนำไปเผยแพร่ทางยูทูบ พร้อมกับคำแปลเป็นภาษาจีน โดยมีการเน้นคำกล่าวในตอนที่รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า 'นักท่องเที่ยวจีนเป็นคนทำนักท่องเที่ยวจีนอ่ะ จีนเข้ามาก็ใช้นอมินีไทยไงล่ะ ถามซ้ำถามซาก เขาไม่เชื่อกรมอุตุเรา ก็เป็นเรื่องของเขา เขาทำเรือของเขาเอง เขาฝ่าฝืน เขาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเรา แล้วจะให้เราทำยังไงล่ะ ก็เป็นเรื่องของเขา'
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ไชน่าเดลี่ หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า ท่าทีดังกล่าวของพล.อ.ประวิตร ถือเป็นการ 'ยั่วยุและไม่รับผิดชอบ' และว่า ถึงแม้คำกล่าวของรองนายกรัฐมนตรีไทยเป็นเรื่องจริง รัฐบาลไทยก็ไม่สามารถละเลยความรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เว่ยโป ของจีน อ้างผู้เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุว่า ไม่มีการเตือนเรื่องการนำเรือออกจากท่าก่อนที่จะเผชิญพายุหนักกลางทะเลจนเรืออับปาง และเล่ากันด้วยว่า ลูกเรือคนไทยผละทิ้งผู้โดยสารเมื่อน้ำเข้าเรือ บางคนบอกว่า ผู้รอดชีวิตและญาติจากเมืองจีนต้องประสบความล่าช้าของระบบราชการไทยเมื่อพยายามขอดูศพและระบุชื่อของผู้ตาย
ซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า ขณะนี้ ในจีนกำลังมีเสียงเรียกร้องให้คนจีนเลิกไปเที่ยวเมืองไทย
ผู้ใช้เว่ยโปคนหนึ่งเขียนว่า 'ประเทศจีนจะถูกหยามกันง่ายๆอย่างนี้หรือ ชีวิตคนจีนจะถูกเหยียบย่ำอย่างไม่ใยดีอย่างนี้หรือ ผมดีใจที่เด็กๆทีมฟุตบอลไทยได้รับการช่วยเหลือ แต่ผมจะไม่ไปประเทศนี้อีกแล้ว'
อย่างไรก็ดี ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงปักกิ่งได้ออกถ้อยแถลงชี้แจงว่า คำพูดของพล.อ.ประวิตรอาจกระทบความรู้สึกของครอบครัวผู้สูญเสีย เขาได้แสดงความเสียใจและขอโทษแล้ว
ด้านโฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศจีน หัวชุนหยิง บอกว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในการช่วยชีวิตและค้นหาผู้สูญหาย และตำรวจไทยจะติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย