กูเกิล ประเทศไทย ร่วมแชร์ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนามาเพื่อทุกคน ทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต ร่วมแก้ปัญหาสุขภาพให้กับมนุษย์ และยังช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน
กูเกิล บริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ที่คิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลอยู่เสมอ ซึ่งในช่วงที่หลายหน่วยงาน และนักพัฒนาทั่วโลก กำลังจับตามองเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เช่นนี้ กูเกิล ถือเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการคิดค้นฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ออกมาช่วยส่งเสริมให้มนุษย์ทำงานได้สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามนโยบายของโครงการที่ว่า AI For Everyone หรือ ปัญญาประดิษฐ์สำหรับทุกคน
ล่าสุด กูเกิล ประเทศไทย ได้เข้าร่วมขึ้นเวทีเสวนา บล็อกนันทูมอร์โรว (Blognone Tomorrow) ซึ่งจัดโดย บล็อกนัน เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีของไทย โดยในงาน ตัวแทนจากกูเกิลได้พูดถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำงานอยู่หลังบ้านของกูเกิลโดยที่ผู้ใช้งานอาจจะไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ ของกูเกิล เช่น Google Photos ที่ใช้ทั้งเอไอและแมชชีนเลิร์นนิง เข้ามาช่วยจดจำภาพถ่ายที่โยนขึ้นบนคลาวด์ของผู้ใช้งาน ให้สามารถตรวจสอบและค้นหาได้งานขึ้น แอปพลิเคชัน Google Translate ในฟีเจอร์ Word Lens ที่สามารถแปลภาษาผ่านรูปถ่ายได้โดยตรง รองรับการแปลข้ามไปมาระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ ทั่วโลก รวมทั้งผู้ช่วยคำสั่งเสียงอัจฉริยะ Google Assistant ที่มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยตอบโต้มนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด และกูเกิลเพิ่งจะเปิดตัวเวอร์ชันภาษาไทยไปเมื่อไม่นานมานี้
อีกหนึ่งส่วนที่กูเกิลกำลังพัฒนา คือการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยทำให้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าถึงได้ในทุก ๆ ธุรกิจ เช่น การเปิด Open Source ‘TensorFlow’ หรือการเขียนโปรแกรมสอนคอมพิวเตอร์ให้สามารถเรียนรู้ได้ การทำ Cloud APIs บนกูเกิลคลาวด์ เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถนำโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงของกูเกิลไปปรับใช้ต่อได้ทันที และสุดท้ายคือการสร้างฮาร์ดแวร์ Tensor Processing Unit ซึ่งใช้รันแมชชีนเลิร์นนิงได้โดยเฉพาะ โดยกูเกิลได้ยกตัวอย่างการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในอุตสาหกรรม คิวพี (Kewpie) อาหารสำหรับเด็กในญี่ปุ่น ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงของกูเกิลมาคัดเลือกวัตถุดิบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยก่อนจะส่งผลิตต่อไป แต่สิ่งที่กูเกิลให้ความสำคัญมากที่สุด คือการนำเอาปัญญาประดิษฐ์มาช่วยแก้ไขปัญหาให้มนุษย์ ทั้งตอบโจทย์ในด้านสุขภาพ และทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยเฉพาะการตรวจจับหาสาเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เสี่ยงจะมีอาการลุกลามไปจนกระทั่งทำให้ตาบอด เพื่อวางแผนการรักษา และหาทางออกได้ทัน
นอกจากนั้น กูเกิลยังใส่ใจในเรื่องการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร และป้องกันโรคในพืช โดยการใช้แมชชีนเลิร์นนิงมาตรวจสอบอาการผิดปกติของใบพืชผ่านการสแกนรูปภาพ และแนะนำวิธีป้องกันก่อนที่พืชผลทางการเกษตรจะได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ร่วมกับการสำรวจทางอวกาศ เพื่อค้นหาดาวเคราะห์ใหม่ ๆ อีกด้วย โดยกูเกิลประเทศไทย ได้ทิ้งท้ายบนเวทีเสวนาครั้งนี้ไว้ว่า ภารกิจของกูเกิล คืออยากให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นของคนทุกคนได้เหมือน ๆ กัน สามารถสร้างประโยชน์ในชีวิตประจำวันให้ทั้งคนทั่วไป และองค์กรภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมไปถึงแก้ไขหลายปัญหาของโลก ซึ่งกูเกิลมองว่าเอไอเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพที่สุดของโลก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนศึกษาการใช้เอไอและนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด