เฟซบุ๊กเพิ่มฟีเจอร์อธิบายวิธีเลือกโพสต์
เฟซบุ๊กได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า Why am I seeing this post? หรือ ทำไมฉันจึงเห็นโพสต์นี้ เพื่อตอบคำถามของผู้ใช้งานที่สงสัยว่าเฟซบุ๊กมีวิธีเลือกโพสต์หรือโฆษณาที่ผู้ใช้งานแต่ละคนเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเหตุผลก็มีความหลากหลายตั้งแต่ การเป็นโพสต์ของคนที่เรามี engagement ด้วยบ่อย ๆ , เป็นโพสต์ของคนที่เราเคยเข้าไปคอมเมนต์, เป็นโพสต์ของเพจที่เรากดติดตาม หรือถ้าเป็นโพสต์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา ก็แสดงว่าต้องเป็นโพสต์ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก มีคนเข้าไปคอมเมนต์และกดแชร์จำนวนมาก
เมื่อผู้ใช้งานกดเข้าไปดูคำอธิบายของเฟซบุ๊กแล้วว่าทำไมจึงเลือกโพสต์นี้ให้เราเห็น ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อไป เช่น หากเป็นโพสต์ที่เราสนใจ และอยากติดตามต่อ ก็สามารถกดปุ่ม See First ซึ่งหากโพสต์นี้มีความเคลื่อนไหวอะไรใหม่ ๆ เฟซบุ๊กก็จะแสดงให้เราเห็นทันที หรือถ้าเป็นโพสต์ที่เราไม่สนใจ ก็สามารถกดปุ่ม Unfollow ซึ่งจะทำให้เราไม่เห็นโพสต์นี้ในหน้าฟีดอีกต่อไป
ทุกคนคงพอจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า โพสต์แต่ละโพสต์ หรือโฆษณาแต่ละชิ้นที่เราเห็นบนหน้าเฟซบุ๊ก คือสิ่งถูกอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กเลือกมาให้เราเห็น เนื่องจากว่าจำนวนโพสต์ที่เพื่อนของเราโพสต์ลงเฟซบุ๊ก หรือเนื้อหาอัปเดตของแฟนเพจที่เราติดตาม ในแต่ละวัน มีมากเกินไปจนไม่สามารถแสดงให้เราเห็นทั้งหมดได้ เฟซบุ๊กจึงใช้อัลกอริธึมเลือกแสดงเฉพาะเนื้อหาที่น่าจะตรงกับความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน แต่หลายครั้ง เราอาจจะเห็นโพสต์ที่ดูไม่น่าเกี่ยวข้องอะไรกับเรา และเกิดความสงสัยว่าทำไมเฟซบุ๊กจึงเลือกแสดงสิ่งนี้ให้เราเห็น ซึ่งฟีเจอร์ Why am I see this post? ของเฟซบุ๊ก ถูกออกแบบมาเพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านี้ เนื่องจากช่วงหลัง มีผู้ใช้งานแสดงความกังวลว่าอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กทำงานไม่โปร่งใสเท่าที่ควร
โซนี่ลดพนง.แผนกสมาร์ตโฟน 2,000 คน
ยังคงแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกันอย่างดุเดือดสำหรับธุรกิจสมาร์ตโฟน ซึ่งแม้จะมีหลายแบรนด์ที่ทำยอดขายได้ดีขึ้น แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่กำลังลำบาก เพราะยอดขายและส่วนแบ่งตลาดลดลงเรื่อย ๆ อย่างโซนี่ ที่ผลประกอบการธุรกิจด้านสมาร์ตโฟนถดถอยติดกันมาเป็นที่ 3 แล้ว ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยครองส่วนแบ่งตลาดได้ 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2010 ล่าสุด มีรายงานว่าโซนี่จะปรับลดพนักงานในแผนกธุรกิจสมาร์ตโฟนจากที่มีอยู่ 4,000 คน ให้เหลือ 2,000 คน ภายในปี 2020 และนำแผนกสมาร์ตโฟนเข้าไปรวมกับแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ อย่าง โทรทัศน์ เครื่องเสียง และกล้อง โดยจะเรียกแผนกใหม่ที่รวมกันนี้ว่า Electronics Products and Solutions
โซนี่คาดหวังว่าการปรับลดพนักงานแผนกสมาร์ตโฟนลงครึ่งหนึ่งจะช่วยลดต้นทุน และจะทำให้ธุรกิจสมาร์ตโฟนของโซนี่กลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปี 2020 โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในญี่ปุ่นจะถูกย้ายให้ไปทำงานในแผนกอื่น ส่วนพนักงานที่อยู่นอกญี่ปุ่นก็จะได้รับเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด
สมาร์ตโฟนแฟล็กชิปครึ่งหนึ่งของหัวเว่ยจะ 'พับได้'
ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนแบบพับหน้าจอได้ไปแล้วหลายแบรนด์ แต่ว่า Huawei Mate X เป็นสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้ ที่ถูกมองว่าออกแบบได้สวยงาม และดูน่าสนใจที่สุด ซึ่ง ริชาร์ด หยู ซีอีโอของหัวเว่ย ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ GSM Arena เกี่ยวกับแผนการผลิตสมาร์ตโฟนแบบพับหน้าจอได้ของหัวเว่ยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต โดยเขาเปิดเผยว่าภายในสองปีข้างหน้า สมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปของหัวเว่ยครึ่งหนึ่งจะเป็นสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้ แม้ตอนนี้จะยังเป็นช่วงเริ่มต้น และต้นทุนในการผลิตก็ยังแพงอยู่ แต่หยูเชื่อมั่นว่าต้นทุนจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้มีราคาที่แทบไม่แตกต่างจากสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปทั่วไป
นอกจากราคาที่จะลดลงเรื่อย ๆ แล้ว หยูยังเปิดเผยด้วยว่าหัวเว่ยมีแผนจะผลิตสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้ที่มีขนาดเล็กลงมา เพื่อความสะดวกในการพกพาด้วย