ศ.กิตติคุณ ไชยวัฒน์ ค้ำชู คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Wake Up News เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 มิถุนายน 2561) ต่อการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่โรงแรมคาเปลา บนเกาะเซ็นโตซา ประเทศสิงคโปร์ โดยการพบกันครั้งนี้ นับเป็นการประชุมครั้งแรกของโลก ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังตำแหน่งอยู่ กับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่ยังอยู่ในตำแหน่งเช่นเดียวกัน สำหรับการประเด็นหลักในการประชุมหารือครั้งนี้คือ 'การปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ'
ศ.กิตติคุณ ไชยวัฒน์ ค้ำชู มองจากภาพการพบกันของ 2 ผู้นำตั้งแต่การปักธง สหรัฐฯ สลับ เกาหลีเหนือ ก็แสดงให้เห็นเหมือนว่า 'เกาหลีเหนือได้รับการยอมรับ' ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำเกาหลีเหนือปรารถนา ขณะที่มีนักวิเคราะห์ในอเมริกามองว่า #TrumpKimSummit นี้เป็นการลดตัวของสหรัฐฯ
ศ.กิตติคุณ ไชยวัฒน์ ค้ำชู ระบุการกระทำของทรัมป์ไม่ใช่การใฝ่สันติ หรือรักสันติ แต่เป็นการกระทำที่ตรงกันข้างกับประธานาธิบดีโอบามาทั้งเรื่องภายในและต่างประเทศ สำหรับข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีเหนือนั้นมีมา 2 - 3 ครั้งแล้ว และคิดว่าคงไม่มีความแตกต่างจากข้อตกลงเดิมที่เคยมีมาแล้ว และตอนนี้อำนาจต่อรองของเกาหลีเหนือมีมากกว่าที่ผ่านๆ มา โดยจากข้อตกลงต่างๆ ที่เคยมีมาสิ่งที่น่าแปลกคือ สหรัฐฯไม่อยากให้เกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์ สหรัฐฯ ละเมิดข้อตกลงก่อน และการปฏิบัติของสหรัฐฯ กลับเป็นการเร่งให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างจริงจัง
ศ.กิตติคุณ ไชยวัฒน์ ค้ำชู ระบุ ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะเกิดขึ้นได้ต้องมี 'จีน' มาร่วมในการตกลงด้วย และมองว่าวันนี้อาจไม่มีสนธิสัญญาสันติภาพเกิดขึ้น แต่เป็นไปได้ที่จะมีการประกาศจะยุติสงคราม การพบกันระหว่าง 2 ผู้นำในวันนี้จึงเป็นที่น่าจับตาเพื่อสานต่อสันติสุขในคาบสมุทรเกาหลี
ศ.กิตติคุณ ไชยวัฒน์ ค้ำชู มอง การหารือในวันนี้ จะมีสัญญาณบวกหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับ สหรัฐฯ ที่ต้องยุติเสแสร้งต่อการเป็นภัยคุกคามเกาหลีเหนือ เพราะโดยศักยภาพทางอาวุธของเกาหลีเหนือน่าจะไม่มีความสามารถทางแสนยานุภาพเท่าเทียมสหรัฐฯ หรือแม้แต่ต่อเกาหลีใต้เอง เกาหลีเหนือก็ไม่อาจทัดเทียมได้