เกาหลีใต้วางแผนที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2032 ร่วมกับเกาหลีเหนือ เพื่อช่วยเสริมสร้างมิตรภาพและสันติภาพที่ยั่งยืนมากขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าวสเตรตไทม์ของสิงคโปร์รายงานโดยอ้างอิงสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ว่า นายโด จอง-ฮวาน รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของเกาหลีใต้ เตรียมที่จะเสนอแผนให้เกาหลีใต้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2032 ร่วมกับเกาหลีเหนือ โดยจะเสนอแผนดังกล่าวระหว่างที่เขาเดินทางไปเกาหลีเหนือร่วมกับ นายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศของสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีให้ดำเนินต่อไป และจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับภูมิภาค
เกาหลีใต้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกมาแล้วครั้งหนึ่ง ในปี 1988 ซึ่งในครั้งนั้นเกาหลีใต้ก็มีความพยายามที่จะเจรจาให้เกาหลีเหนือได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันร่วมกัน แต่การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการแบ่งสนามจัดการแข่งขันของกีฬาแต่ละประเภท
ปีนี้เป็นปีแรกที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้จัดทีมกีฬาร่วมกัน เพื่อเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่เมืองเปียงชางของเกาหลีใต้ และเอเชียนเกมส์ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย โดยนักกีฬาของทั้งสองประเทศยังได้เดินเข้าสนามร่วมกันภายใต้ธงรวมชาติเกาหลีในพิธีเปิด ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าการที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกร่วมกันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ต่อจากนั้น ในเดือนเมษายนก็มีเหตุการณ์ที่ต้องจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์คาบสมุทรเกาหลี เนื่องจากเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การสงบศึกชั่วคราวในสงครามเกาหลีเมื่อปี 1953 ที่ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางข้ามเส้นแบ่งเขตแดน เส้นขนานที่ 38 มายังเขตอธิปไตยของเกาหลีใต้ โดยนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ พบกับนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จับมือกันเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและสันติภาพ
และในชั่วขณะนั้น นายคิมได้ทำสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ การเชิญนายมุนข้ามเส้นแบ่งเขตแดนไปยังเกาหลีเหนือ ก่อนที่ตนเองจะเดินเท้าข้ามเส้นแบ่งเขตแดนในหมู่บ้านพันมุนจอม มายังทำเนียบสันติภาพ สถานที่เจรจาหลักของวัน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดถูกตีความอย่างกว้างขวางว่าเป็นท่าทีที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ยกเว้นการที่นายคิมเชิญนายมุนข้ามแดนไปเกาหลีเหนือชั่วขณะ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่นายมุนเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
Note:1015WD
สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีที่คลี่คลายลง ทำให้ทั่วโลกต่างจับตามองไปที่สีสันความบันเทิงในเกาหลีเหนือมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดงาน 'อารีรัง แมสเกมส์' ครั้งแรกในรอบ 5 ปี เนื่องในวันครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งประเทศ พร้อมจัดแปรอักษร คอนเสิร์ต และการแสดงจากนักแสดงนับแสนคนภายใต้ธีม 'การเข้าสู่ยุคใหม่' ของเกาหลีเหนือที่ต้องการแสดงถึงศักยภาพในการจัดงานใหญ่ระดับโลกได้
การแสดงในปีนี้ของอารีรังแมสเกมส์ เกาหลีเหนือได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาจัดการแสดงร่วมด้วย เช่น การใช้โดรนแปรอักษรกลางอากาศ และการแสดงภาพระหว่างคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ขณะพบกับมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในระหว่างการเจรจาสันติภาพระหว่างสองเกาหลีด้วย// จิอานี แมร์โล ผู้อำนวยการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬานานาชาติ ชาวอิตาลี กล่าวว่า การแสดงในแมสเกมส์ปีนี้เทียบเท่าได้กับการแสดงในพิธีเปิดของกีฬาโอลิมปิก และภายใต้การนำเสนอของเกาหลีเหนือในปีนี้ ทำให้ต้องรอดูว่าในแสดงแต่ละชุดจะนำเสนออะไร และจะได้เห็นอะไรจากการแสดงเหล่านี้
ทั้งนี้ หากเกาหลีใต้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2032 ร่วมกับเกาหลีเหนือ สิ่งที่น่าจับตามองต่อไปก็คือการแข่งกับอินเดีย อินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย ที่แสดงตัวว่าต้องการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2032 ด้วยเช่นกัน
Note:0149WD
ขณะเดียวกันการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ครั้งที่ 3 กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 18-20 กันยายนนี้ โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่กรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ และคาดว่าจะใช้สถานที่ในเขตอุตสาหกรรมเคซงในเกาหลีเหนือเป็นที่พูดคุยระหว่าง 2 ผู้นำ ซึ่งการเตรียมการได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายชุง อึยยอง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงของเกาหลีใต้ เป็นหัวหน้าพาคณะตัวแทนของเกาหลีใต้เดินทางไปเจรจาการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำทั้งสองเกาหลี ในการเดินทางไปครั้งล่าสุดนี้ นายชุงเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นชอบในการทบทวนปฏิบัติการณ์ในข้อตกลงพันมุมจอม รวมไปถึงการเจรจาการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวในอนาคตด้วย นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพในระยะยาวให้เกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ที่ผู้นำคิมจองอึนให้การยืนยันถึงการดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการให้ความร่วมมือกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ อีกด้วย