ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - เน็ตฟลิกซ์ขึ้นราคาทำลูกค้ารายได้น้อยเลิกดู - Short Clip
World Trend - โรงแรมดังนิวยอร์กเปิดเว็บแฟชั่นออนไลน์ - Short Clip
World Trend - Gravitymaster รุ่นใหม่จะวางขายเมษายนนี้ - Short Clip
World Trend - 'บิตคอยน์' ราคาพุ่งเกือบ 3 แสนบาท - Short Clip
World Trend - ยอดขายหูฟังไร้สายจะแตะ 129 ล้าน ในปี 2020 - Short Clip
World Trend - มูลค่า 'บิตคอยน์' ตกลงต่ำสุดในรอบเดือน - Short Clip
World Trend - Tag Heuer เปิดตัวสมาร์ตวอตช์สำหรับตีกอล์ฟ - Short Clip
World Trend - ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องมีเดียมฟอร์แมตใหม่ - Short Clip
World Trend - Fight Camp เปลี่ยนห้องให้เป็นยิมชกมวย - Short Clip
World Trend - 'ฟาร์มไก่มีจริยธรรม' เทรนด์บริโภคไข่ของวันนี้ - Short Clip
World Trend - เน็ตฟลิกซ์เลิกรับค่าสมาชิกบางส่วนผ่านไอโอเอส ​- Short Clip
World Trend - ผู้หญิงญี่ปุ่นสอบเข้าแพทย์ได้มากกว่าผู้ชาย - Short Clip
World Trend - รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ยาครอบจักรวาล - Short Clip
World Trend - เทสลาปิดโชว์รูมลดต้นทุน เดินหน้าขายออนไลน์ - Short Clip
World Trend - 'อีลอน มัสก์' สละตำแหน่งประธานเทสลาพร้อมถูกปรับ 646 ลบ. - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวหูฟังไร้สายใหม่ - Short Clip
World Trend - ​'ชุดตรวจดีเอ็นเอสุนัข' ขึ้นแท่นสินค้าฮิตแอมะซอน - Short Clip
World Trend - เทรนด์การดื่มไวน์กำลังมาแรงในจีน - Short Clip
World Trend - จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปทะลุล้านคัน - Short Clip
World Trend - รายงานชี้ ปี 2020 ต้นทุนพลังงานทางเลือกจะถูกลง - Short Clip
World Trend - อินสตาแกรมเตรียมให้ล็อกอินหลายบัญชีพร้อมกัน - Short Clip
Feb 6, 2019 04:46

บทความสุขภาพบนเฟซบุ๊กไม่เป็นจริงเสมอไป

เฟซบุ๊กยังคงเผชิญปัญหาการแพร่กระจายของข่าวปลอม ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอมทางการเมือง หรือ คลิกเบต ที่ล่อลวงให้ผู้ใช้งานเข้าไปกดอ่านและกดแชร์ ล่าสุด ผลสำรวจพบว่าบทความด้านสุขภาพซึ่งเป็นคอนเทนต์ยอดนิยมหนึ่งที่ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกดเข้าไปอ่านและแชร์จำนวนมาก แต่บทความเหล่านี้กว่าครึ่งเป็นข้อมูลเท็จ หรือเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด โดยผลสำรวจจาก Health Feedback ที่ทำการตรวจสอบบทความสุขภาพ ทั้งที่มาจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง และเว็บไซต์ที่คลุมเครือ พบว่ามีบทความสุขภาพบนเฟซบุ๊ก 45 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการประเมินว่า "น่าเชื่อถือมาก" และ "น่าเชื่อถือ" ขณะที่ บทความอีก 35 % ได้รับการประเมินว่า "มีความน่าเชื่อถือต่ำ"

บทความสุขภาพที่นิยมแชร์บนเฟซบุ๊กประกอบด้วยบทความเกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษา ข้อมูลอาหารและโภชนาการ และวัคซีน โดยข้อมูลด้านอาหารและโภชนาการเป็นหัวข้อเรื่องที่ข้อมูลไม่ถูกต้องและถูกแชร์มากที่สุด โดยในปีที่ผ่านมา ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ถูกแชร์มากถึง 12.3 ล้านครั้ง ในขณะที่ข้อมูลที่ถูกต้องมียอดแชร์ 11 ล้านครั้ง โดยมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เฟซบุ๊กยังไม่ค่อยจริงจังกับการจัดการการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับสุขภาพมากเท่าที่ควร แม้ว่าเฟซบุ๊กประกาศไว้ว่าจะเอาจริงกับการเผยแพร่ข่าวปลอม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมุ่งเน้นไปที่ข่าวปลอมด้านการเมืองหรือคนที่มีชื่อเสียงเสียมากกว่า


อินสตาแกรมเตรียมให้ล็อกอินหลายบัญชีพร้อมกัน

อินสตาแกรมกำลังคิดค้นฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถล็อกอินได้หลายบัญชีพร้อมกัน โดยที่ไม่ต้องล็อกอินและล็อกเอาต์เพื่อสลับบัญชีใช้งานอีกต่อไป ซึ่ง TechCrunch รายงานว่า ฟีเจอร์ใหม่ของนี้จะมีชื่อว่า "แอปฯ ลิงกิง" โดยผู้ใช้งานอินสตาแกรมที่มียูสเซอร์เนมหลายบัญชี จะสามารถเลือกชื่อล็อกอินชื่อหนึ่งให้เป็นบัญชีหลัก โดยที่จะสามารถควบคุมการใช้งานบัญชีอื่นได้ด้วย ซึ่งผู้ใช้งานเพียงล็อกอินชื่อบัญชีหลัก ก็สามารถเข้าไปดูรูปภาพ อัปโหลดรูป กดไลก์ ส่งข้อความในแต่ละบัญชีได้อย่างอิสระ 

การที่คนคนหนึ่งจะมีบัญชีอินสตาแกรมมากกว่าหนึ่งบัญชีไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปในปัจจุบัน เพราะผู้ใช้สามารถมีอินสตาแกรมทั้งแบบส่วนตัว อินสตาแกรมสำหรับงาน ขายของ หรือสัตว์เลี้ยงควบคู่กันไปด้วย ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานที่มีหลายบัญชีก็ต้องระวังเรื่องอินสตาแกรมถูกแฮกให้มากขึ้น เนื่องจากหากอินสตาแกรมบัญชีหลักถูกแฮก ก็จะทำให้บัญชีอื่นทุกบัญชีถูกแฮกตามไปด้วย โดยขณะนี้ 'แอปฯ ลิงกิง' ยังคงอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ซึ่งอินสตาแกรมพยายามที่จะออกแบบฟีเจอร์นี้ให้มีความปลอดภัยและใช้งานง่ายที่สุด 


'พูมา' ทดสอบรองเท้าไฮเทครุ่นใหม่

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ไนกี้เพิ่งจะเปิดตัว Adapt BB ซึ่งเป็นรองเท้าไฮเทครุ่นใหม่ที่สามารถรัดเชือกเองได้ ล่าสุด พูมา แบรนด์เสื้อผ้าและชุดกีฬาชื่อดังก็เปิดตัวรองเท้าไฮเทครุ่นใหม่ของตัวเองบ้าง ซึ่งมีชื่อรุ่นว่า เอฟไอ (Fi) ที่ย่อมาจาก Fit Intelligence ซึ่งก็เป็นรองเท้าที่สามารถรัดเชือกได้โดยอัตโนมัติเมื่อสวมใส่เหมือนกัน โดยสามารถควบคุมและปรับความกระชับของรองเท้าได้ผ่านการแตะลิ้นด้านบนของรองเท้า หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน หรือแอปเปิลวอตช์ก็ทำได้

พูมายังได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องของเทคโนโลยีให้ร่วมกันทดสอบรองเท้าไฮเทคคู่นี้ เพื่อที่จะรับฟังความคิดเห็นเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความสบายในการสวมใส่ ความกระชับ หรือ การออกแบบ โดยพูมาให้ข้อมูลว่ารองเท้าเอฟไอ ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายในฟิตเนส และการวิ่งที่ไม่หนักมาก ซึ่งพูมามีแผนจะวางจำหน่ายรองเท้ารุ่นนี้ในปี 2020 ที่ราคา 330 ดอลลาร์ หรือประมาณ 11,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับรองเท้าไฮเทค Adapt BB ของไนกี้


Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog