นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่าประชาชนคาดหวัง เศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง แต่ขึ้นอยู่ว่าการเลือกตั้งที่มาถึงต้องเสรีเป็นธรรม จะนำมาสู่การยอมรับผลการเลือกตั้ง และเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ในมิติของการลงทุนก็มีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลถึงการเจรจาการค้า โดยเฉพาะการพูดคุยกับสหภาพยุโรปจะง่ายขึ้นตามไปด้วย
แต่หากการเลือกตั้งไม่เสรีไม่เป็นธรรม ก็ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นได้ เพราะจะส่งผลกระทบไปถึงปัจจัยภายนอกที่มีความเสี่ยงในระดับสูง เช่นผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจภาพรวมและการค้าในระดับโลก มีการชะลอตัว เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกทั้งสิ้น
นายอนุสรณ์ ระบุด้วยว่า เหตุที่ การกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งใช้เม็ดเงินมหาศาล ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง เนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศมีความเหลื่อมล้ำระดับสูง ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่
คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต เห็นว่านโยบายที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้พลิกฟื้นกลับคืนมาได้ ต้องเป็นนโยบายที่มุ่งสร้างรายได้ให้ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนในระดับฐานราก รวมถึงการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนและเห็นว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจควรเดินหน้า และทำอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ผ่านกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคเอกชน
ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลหลังการเลือกตั้งควรดำเนินการคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระดับฐานล่าง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น กระตุ้นให���ราคาพืชผลให้สูงขึ้นขณะเดียวกันเห็นว่าการแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรยังมีความจำเป็น แต่ต้องทำบนพื้นฐานของความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อฐานะทางการคลังของประเทศ
นอกจากนี้ ต้องมีมาตรการส่งเสริมให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น รวมถึงลดต้นทุนการผลิต จากนั้นจึงต่อยอดให้ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น ผ่านการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในระยะยาวได้อย่างแท้จริง