ไม่พบผลการค้นหา
'ก้าวไกล' ยึดมั่นหลักการนายกฯ ควรมาจาก ส.ส. ชี้เพื่อรักษาเจตนารมณ์ประชาชนตั้งแต่พฤษภา '35 และ รธน. '40 ย้ำ 'พิธา' ได้อยู่บัญชีรายชื่ออันดับ 1 แน่นอน

วันที่ 27 มี.ค. รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงข้อสังเกตว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกของพรรค เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย ซึ่งขัดต่อหลักการที่ว่า นายกรัฐมนตรีควรมาจาก ส.ส.

รังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการที่แคนดิเดตนายกต้องมาจาก ส.ส. เพราะย้อนไปจากการต่อสู้ในช่วงพฤษภาทมิฬ 2535 ประชาชนจำนวนมากได้เสียสละออกมาต่อสู้เพื่อยืนยันในหลักการนี้ จนเกิดเป็นรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ขึ้นมา ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่มีสาระสำคัญในเรื่องนี้ พรรคก้าวไกลจึงสนับสนุนในหลักคิดดังกล่าว

ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบัน เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากเผด็จการ พยายามทำลายการต่อสู้ของประชาชน และสร้างหลักการผิดๆ หากต้องการให้สถาบันการเมืองมีความเข้มแข็ง จำเป็นต้องยืนยันในหลักการว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.เช่นเดียวกัน

สำหรับพรรคก้าวไกลเอง ยืนยันว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 แน่นอน เพื่อให้เป็นไปตามเจตจำนงของการต่อสู้ในปี 2535

เมื่อถามถึงกรณีของพรรคเพื่อไทย ที่ชื่อของแคนดิเดตนายกฯ ปัจจุบัน ก็ไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.เช่นเดียวกัน รังสิมันต์ กล่าวว่า ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน เท่ากับเป็นการปิดประตูหลักคิดที่ว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. ซึ่งพรรคก้าวไกลไม่ทำแบบนั้น

เมื่อถามว่า หากมีพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง และ ส.ส.โหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคดังกล่าว จะถือว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนหรือไม่ รังสิมันต์ ยืนยันว่า หากในการโหวตเลือกนายกฯ ต้องหารือกันภายใน ยังแถลงตอนนี้คงไม่ได้ อย่างไรต้องดูผลการเลือกตั้งก่อน แต่สุดท้ายตนก็ค่อนข้างเสียดายหากนายกฯ ไม่ได้เป็น ส.ส.ซึ่งเป็นหลักการสำคัญตั้งแต่สมัยพฤษภา '35 ซึ่งพรรคการเมืองควรเคารพและรักษาในเจตนารมณ์นี้