ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ยืนยันสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่เข้าข่ายการแพร่ระบาดรอบ 2 แต่หากระบาดต้องล็อกดาวน์ วอนสื่ออย่าสร้างข่าวให้ตื่นตระหนก ลั่นเอาผิดผู้ช่วยเหลือให้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.)กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19ภายในประเทศว่า คำว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เข้าข่ายการแพร่ระบาดรอบ 2 แต่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากคนไม่กี่คน ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเตรียมความพร้อม หากระบาดรอบ 2 ก็ต้องล็อกดาวน์ แต่ก็ไม่อยากให้ถึงจุดนั้น ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้มีการคัดกรองพื้นที่ชายแดนและตอนในประเทศ รวมถึงขอให้ประชาชนสังเกตความผิดปกติ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอสื่ออย่าสร้างความตื่นตระหนก เพราะจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิม โดยขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชี้แจงทุกวัน และมอบหมายให้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ภาคเหนือสร้างความเชื่อมั่น และขอให้สื่อเสนอข่าวแต่พอสมควร

ส่วนคนที่ให้ความช่วยเหลือลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ก็ต้องมีการดำเนินคดี และขอให้ทุกคนกลับเข้ามาประเทศในช่องทางที่ถูกกฎหมาย ซึ่งทุกคนต้องรู้ตัวเอง และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานระวังทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ เพราะสถานการณ์รอบบ้านไม่ดีนัก รวมถึงต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับคนไม่กี่คนที่ทำให้เกิดปัญหา

นายกฯ เมินโหร คมช.ฟันธงอยู่ยาว

พล.อ.ประยุทธ์ยังระบุกรณีวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ออกมาทำนายว่าจะอยู่ยาว จนถึงการเลือกตั้งในสมัยต่อไป และ 3 ป.ยังมีชื่ออยู่ต่อ ว่า เป็นการคาดเดาในสิ่งที่ยังไม่เกิด เป็นเรื่องการทำนายก็ว่ากันไป แต่เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ตนต้องดำเนินการ ซึ่งคงไม่ได้ทำตามคำนายทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะต้องใช้หลักการในการบริหารราชการแผ่นดินของตน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังปฏิเสธตอบกระแสข่าวสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อทำการเมืองเต็มตัว​ พร้อมเดินออกจากห้องแถลงข่าว​ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในทันที​

ส่วนความคืบหน้าการตัดสินใจเลือกบุคคลเป็นตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่ากำลังพิจารณาอยู่ โดยให้วิปรัฐบาลเตรียมเสนอขึ้นมา ซึ่งทราบกันหลังจากนี้