ไม่พบผลการค้นหา
‘ประยุทธ์’ วอนสื่อระวังการนำเสนอข่าวยืดอำนาจในเมียนมา หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชนตามแนวชายแดน เผย ยังไม่ได้คุยกับ 'มินอ่องหล่ายน์' ชี้จุดยืนไทยเป็นไปตามอาเซียน

วันที่ 2 ก.พ. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ถึงจุดยืนของรัฐบาลไทย ต่อการรัฐประหารในประเทศเมียนมา และเหตุการณ์ความวุ่นวายหน้าสถานทูตเมียนมา เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ว่า ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันเสนอข่าวอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบ ทั้งการเสียประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และประชาชนที่เป็นเพื่อนบ้านด้วยกัน 

ขณะเดียวกันเป็นเรื่องของอาเซียนด้วย จึงไม่อยากให้เกิดการขยายความขัดแย้งในประเทศของเรา พร้อมย้ำว่า จะยึดตามหลักการอาเซียน

ส่วนจากเหตุการณ์ในประเทศเมียนมา การลงทุนต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในขณะนี้ จะมีการปรับแผนการดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ที่มีปัญหาอยู่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เพื่อเจรจาแก้ปัญหาต่อไป รวมทั้งการช่วยเหลือนักลงทุนของเราด้วย ส่วนได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใดส่วนต้องออกแถลงการหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามอาเซียน

ยันไม่ปรับ ครม.หลังศึกซักฟอก

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช.และ ส.ว.บางคน ออกมาระบุว่าจะมีพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไปถามท่านเองก็แล้วกัน ตอนนี้ยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้

ย้ำเรียกคืนเงิน รร.เอกชน หากเก็บค่าใช้จ่านเกิน

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การหารือที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (2 ก.พ.) ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้ง เรื่องวัคซีน การจัดสรรงบประมาณ และเรื่องแรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหากฎหมายโดยการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาตรงนี้จะเห็นมาตรการต่างๆ ออกมาและไปเก็บตกในส่วนที่มีปัญหาอยู่ จึงจำเป็นต้องทยอยดำเนินการไปเป็นระยะ

ส่วนกรณีการเรียกเก็บค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆของโรงเรียนเอกชนที่ไม่สอดของกับการเรียนออนไลน์นั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการได้มีการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีอะไรที่เกินความจําเป็น ก็จะคืนเงินผู้ปกครองต่อไป โดยเฉพาะค่าจ่ายที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในการเรียนออนไลน์ เช่นค่าอาหารและค่ารถ

วอนทุกคนช่วยให้ประเทศเข้มแข็ง รับผิดชอบแก้โควิด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ. ) ซึ่งเป็นวันทหารผ่านศึก ขอให้ช่วยสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิทหารผ่านศึก เพราะจำเป็นต้องดูแลทหาร ที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทางรัฐบาลก็มีช่องทางของกระทรวงกลาโหม ภายนอกก็มี องค์การทหารผ่านศึก จึงฝากช่วยกันดูแล และย้ำว่าอย่าลืมคำว่าประเทศเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว วันนี้มีรั้วนอกรั้วในหลายมิติ ทำหน้าที่ทั้งการพัฒนา การดูแลประชาชน ภัยพิบัติน้ำท่วม ขอให้นึกถึงคุณความดีเขาบ้าง

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นกลไกของรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ. กอ.รมน. เช่นเดียวกับทุกรัฐบาลที่ผ่าน เพียงแต่ตนเป็นทหารมาก่อนเท่านั้น ยืนยัน ว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของรัฐบาล ไม่ใช่ของทหารหรือของตน 

นายกรัฐมนตรี ยังทิ้งท้ายว่าขอให้ทุกคนช่วยกันให้ประเทศนั้นเข้มแข็ง เสียสละ รับผิดชอบร่วมกันแก้ไข ในการแพร่ระบาดโควิด-19 ตรวจสอบ คัดกรอง ส่วนในพื้นที่ที่มีความเข้มงวดให้สูงสุด เราจำเป็นต้องผ่อนคลายหลายมาตรการออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทุกคนอยู่ในห่วงโซ่ระมัดระวังตัวเองก็จะไม่เกิดอันตรายมากขึ้น และวันนหน้าจะกลับเข้าสู่ปกติโดยเร็ว ส่วนเรื่องวัคซีนก็กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ขออย่ากังวล ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้มาเท่าไรอย่างไรและจะมีแผนการผลิตอะไรอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง